ไทยรัฐออนไลน์ : 7 พฤษภาคม 2555
รัสเซีย..ประท้วงก่อนปูตินสาบานตน
เกิดเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมฝ่ายค้านที่ออกมาประท้วงส่งท้ายก่อนที่นายกรัฐมนตรีวลาดีเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 อีก 6 ปีในวันนี้
ผู้ชุมนุมฝ่ายค้านอย่างน้อย 20,000 คน เดินขบวนผ่านใจกลางกรุงมอสโก นครหลวงของรัสเซีย เมื่อวานนี้ พร้อมตะโกนคำขวัญต่อต้านปูติน การประท้วงดำเนินไปอย่างสงบจนกระทั่งมีผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ พยายามแยกตัวออกไป ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำมอสโกที่ตำรวจปิดกั้นไว้ ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น และมีการจับกุมผู้ชุมนุมหลายสิบคน รวมถึงแกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญหลายคน
ผู้ประท้วงตัดสินใจปักหลักนั่งอยู่ข้างแนวกั้นของตำรวจและประกาศจะไม่กลับ จนกว่าจะยกเลิกพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของปูติน พร้อมกับเรียกร้องให้โทรทัศน์รายงานข่าว 1 ชั่วโมงและให้จัดการเลือกตั้งใหม่
สำหรับจำนวนผู้ออกมาร่วมชุมนุมครั้งนี้ ดูเหมือนจะน้อยกว่าคลื่นการประท้วงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบางครั้งมีคนเข้าร่วมถึงประมาณ 100,000 คน หรือมากกว่านั้น การชุมนุมนี้ถูกกระตุ้นจากความโกรธเกรี้ยวต่อการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาแห่งชาติที่มีข้อครหาโกงเลือกตั้ง และจากเสียงเรียกร้องให้นายปูติน พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่าน
ทั้งนี้ ข้อมูลของทางการรัสเซียระบุว่า ปูติน มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์สั้นๆ ต่อหน้าแขกที่ได้รับเชิญจำนวนเกือบ 2,000 คน ณ เซนต์ แอนดรูว์ ฮอลล์ ในพระราชวังเครมลิน กรุงมอสโก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา หลังจากตำรวจจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านนายปูตินได้แล้วกว่า 400 ราย ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา.
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 15 เมษายน 2555
ชาวรัสเซียก่อม็อบประท้วงผลเลือกตั้ง
ชาวรัสเซียจำนวนมากนำโดยแกนนำฝ่ายค้านออกมารวมตัวกันประท้วงบริเวณจัตุรัสใจกลางกรุงมอสโก เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้ง ส.ส.และประธานาธิบดี ที่ผ่านมา โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยการทุจริต และขาดความยุติธรรม
ขณะเดียวกัน ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มออกมาประท้วงบริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวี เพื่อประท้วงการนำเสนอข่าวของช่องดังกล่าวว่า นำเสนอข่าวเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายรัฐบาล อีกทั้งยังดูหมิ่นฝ่ายค้านด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังสนับสนุนนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งทางภาคใต้ของรัสเซียที่อดข้าวประท้วงผลเลือกตั้ง เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกรอบด้วย และหลังจากนี้ ฝ่ายค้านจะเดินขบวนประท้วงเข้าสู่ใจกลางกรุงมอสโก ในวันที่ 6 พฤษภาคม หรือ 1 วันก่อนทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ของนายวลาดิเมียร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีรัฐเซียคนปัจจุบัน
หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555
รัสเซียชุมนุมไล่ปูติน หลังชนะเลือกตั้ง แต่ผู้ชุมนุมหดหาย เหลือแค่หยิบมือ
มอสโก (เอพี/บีบีซี นิวส์) - สำนักข่าว ต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มฝ่ายค้านในรัสเซีย ได้จัดชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี อันเป็นการท้าทายอำนาจของนายวลาดีมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีรัสเซียครั้งล่าสุด บริเวณย่านใจกลางกรุงมอสโก กลุ่มผู้ประท้วงได้หยิบยกมุขขำๆ จากนิยายเรื่องแฮรŒรี่ พอตเตอร์ และการทำศัลยกรรมด้วยการฉีดยาพิษเข้า กล้ามเนื้อใบหน้าหรือส่วนต่างๆ ที่ต้องการจะให้ เต่งตึงที่เรียกว่า "โบท็อกซ์" มาเป็นประเด็นในการประท้วงนายปูตินว่าที่ประธานาธิบดีรัสเซียคนใหม่ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มผู้ต่อต้านนายปูติน ยังได้หยิบยกข่าวลือในอินเตอร์เนตที่ว่านายปูตินใช้โบท็อกซ์เพื่อรักษาใบหน้าของตนเองให้เต่งตึงอยู่เสมอมาเขียนล้อเลียนบนป้ายประท้วงอีกด้วย เช่น "โวลอดยา รักษาหน้าตัวเองหน่อย" ทั้งนี้ โวลอดยา เป็นชื่อแรกของนายปูตินที่มีการใช้เรียกกันทั่วไป ทั้งยังมีการล้อเลียนการที่ นายปูตินหลั่งน้ำตาระหว่างการประกาศชัยชนะ ในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเร็วๆ นี้ว่า "ชาวมอสโกไม่เชื่อถือน้ำตาจระเข้"
นักวิเคราะห์มองว่า เป็นความพยายาม อีกครั้งของฝ่ายค้านที่จะแสดงพลังให้เห็นว่า แม้นายปูติน จะคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้อย่างสิ้นเชิงก็ตาม ทั้งนี้ ทางเทศบาลกรุงมอสโก ได้อนุญาตให้มีการชุมนุมทางการเมืองได้โดยเสรีและสงบ แต่ผู้ชุมนุมจะต้องไม่เกิน 5 หมื่นคนเท่านั้น โดยการชุมนุมวานนี้มีผู้เข้าร่วมราว 2 หมื่นคนเท่านั้น สำหรับการชุมนุมประท้วง ครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย นับแต่สหภาพโซเวียต ล่มสลายก็คือ การชุมนุมประท้วงเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประท้วงมากกว่า 1 แสนคน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
7 มีนาคม 2555 02:05 น. |
|
ฝ่ายค้านรัสเซียนัดชุมนุมใหญ่ต้านผลเลือกตั้งประธานาธิบดี
เอเอฟพี - ฝ่ายค้านรัสเซียเมื่อวันอังคาร(6) ประกาศชัดจะเดินหน้าประท้วงต่อต้านชัยชนะของวลาดิมีร์ ปูติน ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีต่อไป แม้ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนถูกตำรวจจับกุมไประหว่างเดินขบวนในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เวลานี้แกนนำผู้ประท้วงอยู่ระหว่างเจรจากับทางการมอสโกสำหรับหาข้อตกลงในการขอใช้สถานที่จัดชุมนุมใหญ่ในวันเสาร์นี้(10) ที่พวกเขาหวังใช้กดดัน ปูติน ก่อนหน้าที่เขาจะกลับคืนสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีไปอีกอย่างน้อย 6 ปี
การชุมนุมอันตึงเครียดในช่วงค่ำหลังศึกเลือกตั้งในวันอาทิตย์(4) ถลำเข้าสู่เหตุวุ่นวายและความรุนแรง หลังจากตำรวจใช้โอกาสในช่วงดีกลุยเข้าไปจับกุมพวกฮาร์ดคอร์ที่พยายามปักหลักชุมนุมกัน ณ จตุรัสแห่งหนึ่งในกลางกรุงมอสโก เพื่อคัดค้านผลเลือกตั้งที่พวกเขาอ้างว่าไม่ชอบธรรม ทุจริต และไม่โปร่งใส
ตำรวจบอกว่าได้จับกุมผู้ประท้วงต่อต้านปูติน ณ จตุรัสดังกล่าวและที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กทั้งหมด 620 คน โดยทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันอังคาร(6) ในจำนวนนั้นรวมไปถึง อเล็กเซย์ นาวัลนี นักเคลื่อนไหวต่อต้านคอร์รัปชั่นคนดัง อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่จะถูกเรียกให้ไปปรากฎตัวต่อหน้าศาลซึ่งจะพิจารณาว่าพวกเขาจะต้องติดคุกเป็นเวลา 15 วันหรือไม่
"คนนับหมื่นจะออกมาตามท้องถนนสายต่างๆของมอสโกและเมืองอื่นๆ พวกเขาจะปฏิเสธสลายตัว" นาวัลนี บอกกับผู้สื่อข่าว หลังจากต้องอยู่ในสถานคุมขังตลอดทั้งคืนวันจันทร์(5) "เราจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าความต้องการจะบรรลุผล"
เค้าลางแห่งความไม่สงบนี้บดบังข่าวคราวการกลับคืนสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งของปูติน หลังจากเคยนั่งเก้าอี้ตัวนี้ระหว่างปี 2000-2008 ก่อนต้องเว้นวรรคไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 4 ปีตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ ขณะที่ ปูติน อดีตสายลับเคจีบี มีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้
แกนนำฝ่ายต่อต้านคร่ำครวญถึงกรณีที่ตำรวจใช้กำลังเข้าจัดการการชุมนุมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการเดินขบวนต่อต้านปูตินเมื่อ 3 เดือนก่อน ส่วน ไมเคิล แมคฟาวล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำมอสโก เรียกมันว่าเป็นสถานการณ์แห่งความยุ่งยาก
อย่างไรก็ตามโฆษกของปูติน ยืนยันว่าตำรวจได้แสดงถึงความเป็นมืออาชีพและกล้าหาญอย่างสูงในแนวทางที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีประสิทธิภาพ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียก็ตอบโต้ว่า "ตำรวจมอสโกมีมนุษยธรรมมากกว่าที่เราได้เห็นในการเข้าสลายการชุมนุมของขบวนการยึดวอลล์สตรีท(ในนิวยอร์ก)และที่เมืองอื่นๆในยุโรปหลายเท่า"
ทั้งนี้การชุมนุมใหญ่ครั้งต่อไปกำหนดขึ้นในวันเสาร์นี้(10) ซึ่งฝ่ายแกนนำหวังว่าจะมีประชาชนหลายหมื่นคนออกมาร่วมเดินขบวนไปตามถนนโนวี อาร์บัต แต่ทางผู้บริหารเมืองเสนอให้ไปจัดไปพื้นที่ห่างไกลกว่านี้ ทำให้การเจรจาระหว่างสองฝ่ายยังไม่ได้ข้อยุติ
หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ : วันที่ 06 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09:15:50 น
ตำรวจปราบจลาจลรัสเซี
ยเข้าจับกุมผู้ประท้วงกว่า 550 คน ซึ่งรวมถึงนายอเล็กซี นาวาลนี แกนนำฝ่ายค้าน หลังชุมนุมต่อต้านผลการเลือกตั้งซึ่งนายวลาดิเมียร์ ปูติน ได้รับชัยชนะ
นายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นถึงร้อยละ 64 เตรียมขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียเป็นสมัยที่ 3 แม้ว่าจะได้รับเสียงทักท้วงจากลุ่มผู้สังเกตการณ์นานาชาติที่ระบุว่าเกิดการโกงการเลือกตั้ง ขณะที่การกวาดล้างการประท้วง ได้มีขึ้นหลังการชุมนุมของประชาชนราว 2 หมื่นคน ที่ไม่พอใจผลการเลือกตั้ง ท่วามกลางรายงานเรื่องความรุนแรงตามคูหาเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์
กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 20,000 คน ได้รวมตัวกันที่จัตุรัสพุชกิน ใจกลางกรุงมอสโคว์ เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่และพัฒนาระบบการเมืองเสียใหม่ หลังตกอยู่ภายใต้การปกครองของนายปูตินมานานกว่า 12 ปี การตอบโต้ผู้ประท้วงของรัฐบาลรัสเซีย เมื่อคืนวันจันทร์ เป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยแถวของตำรวจปราบจลาจล ได้เรียงหน้ากระดานเข้าหาผู้ประท้วงที่จตุรัสพุชคิน และบังคับให้ผู้ประท้วงรอรถบัสของตำรวจ ซึ่งมีผู้ถูกจับกุมไปประมาณ 250 คน ขณะที่เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก มีผู้ถูกจับกุมตัวราว 300 คน
ด้านนายอเล็กซี นาวาลนี ทนายความและบล็อกเกอร์ที่คอยเปิดโปงเรื่องราวการทุจริตในรัสเซีย ถูกจับกุมตัวเช่นกัน แต่ได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา โดยเขาได้กล่าวประณามการทุจริตอย่างเอิกเกริกในการเลือกตั้งครั้งนี้ ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุมระหว่าง 14,000-20,000 คน หลังจากนั้น ซึ่งนายนาวัลนี บอกกับผู้สนับสนุนที่ไปคอยต้อนรับเขาประมาณ 30-40 คนว่า เขามีแผนจะจัดการประท้วงในกรุงมอสโคว์ และเมืองใหญ่อื่น ๆ อีกในวันเสาร์นี้ โดยยืนยันว่า จะต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ
อย่างไรก็ดี ได้มีการชุมนุมสนับสนุนนายปูตินขึ้นที่จัตุรัสมาเนจ ที่อยู่ติดกับพระราชวังเครมลิน โดยมีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมราว 14,000 คน
ผู้สังเกตการณ์นานาชาตที่นำโดยองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) ระบุว่า ถึงแม้มีความก้าวหน้าในด้านความโปร่งใสให้เห็นบ้าง แต่การรณรงค์หาเสียงที่ผ่านมามีการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายปูตินอย่างชัดเจน รวมทั้งการนับคะแนนก็มีสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลหลายประการ ทั้งยังระบุว่า ยังคงมีความไม่เชื่อถืออย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความสุจริตของกระบวนการเลือกตั้ง พร้อมกับเรียกร้องให้ทำการสอบสวนข้อกล่าวหาทุกข้อที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการเลือกตั้ง
ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการพบว่า นายปูตินได้รับคะแนนเสียงอย่างถล่มทลายถึงร้อยละ 63.75 ซึ่งทำให้เขากลับคืนสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียอีกครั้งหลังจากที่เคยครองมา 2 สมัยในช่วงปี 2000-2008 ก่อนหันมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ขณะที่อันดับ 2 เป็นของเกนเนดี้ ซืย์กานอฟ ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ได้ร้อยละ 17.19 อันดับ 3 ตกเป็นของมหาเศรษฐี มิคาอิล โปรโครอฟ ได้คะแนนร้อยละ 7.82 และนายวลาดิมีร์ ซิรินอฟสกี้ นักการเมืองชาตินิยม อยู่อันดับ 4 ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 6.23
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2555 10:41 น.
ชาวรัสเซียนับหมื่นฝ่าอุณหภูมิติดลบชุมนุมต้านระบอบ “ปูติน”
ประชาชนซึ่งสวมเสื้อแจ็กเกต เสื้อคลุมขนสัตว์ และรองเท้าบูต ต่างออกมาท้าทายอุณหภูมิที่หนาวเย็นถึง -17 องศาเซลเซียส ในขณะที่บรรยากาศการเมืองรัสเซียเข้าขั้นร้อนระอุเมื่อการเลือกตั้งวันที่ 4 มีนาคมใกล้เข้ามา
ขณะที่ฝ่ายต่อต้านจัดการชุมนุมใหญ่เป็นครั้งที่ 3 ในรอบไม่ถึง 2 เดือน เพื่อกดดันให้บุรุษเหล็กแห่งรัสเซียเลิกล้มความคิดครองอำนาจ กลุ่มสนับสนุน ปูติน ก็ออกมาแสดงพลังสนับสนุนที่จตุรัสแห่งหนึ่งทางตะวันตกของกรุงมอสโกเช่นกัน
ตำรวจระบุว่า มีประชาชนราว 138,000 คนที่มาร่วมชุมนุมสนับสนุนปูติน ทว่า ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะสูงเกินจริง ทั้งยังเกิดข่าวลือว่าพลเมืองบางคนถูกโน้มน้าวหรือกดดันให้มาร่วมชุมนุม
ด้านฝ่ายต่อต้านปูติน มีจำนวนราว 36,000 คนตามรายงานของตำรวจ แต่ผู้จัดการประท้วงแย้งว่า มีผู้มาร่วมชุมนุมครั้งนี้ถึง 120,000 คน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของการชุมนุมครั้งที่ผ่านๆมา แม้สภาพอากาศจะเลวร้ายก็ตาม
“เมื่อประชาชนเป็นแสนคนออกมาเดินประท้วงทั้งที่อากาศหนาวเหน็บเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า พวกเขาเบื่อหน่ายเต็มทน และไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป” โบรัส เนมต์ซอฟ นักการเมืองฝ่ายค้านผู้หนึ่งระบุ
ปูติน เตรียมตัวลงสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้ง หลังจากเว้นวรรคไปเป็นนายกรัฐมนตรี 4 ปี โดยมีกลุ่มต่อต้านส่วนใหญ่มาจากพรรคคอมมิวนิสต์ฝ่ายค้าน
นอกจากที่กรุงมอสโกแล้ว ยังมีการชุมนุมประท้วงปูตินตามเมืองต่างๆ ทั่วรัสเซีย โดยที่เมืองเยกาเตรินเบิร์ก และโนโวซิบิร์สก์ มีประชาชนออกมาเคลื่อนไหวหลายพันคน แม้อากาศจะหนาวเย็นจัดก็ตาม
ทางด้านตะวันตกของกรุงมอสโก ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลก็จัดการชุมนุมขึ้นที่อนุสรณ์สถานสงคราม ป็อกลอนนายา โกรา โดยใช้ชื่อการประท้วงว่า “การประท้วงต่อต้านกลุ่มสีส้ม” ซึ่งสื่อความถึงการปฏิวัติสีส้ม (Orange Revolution) ในยูเครนเมื่อปี 2004 เพื่อล้มล้างระบอบเก่า ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่รัฐบาลเครมลิน
“ทุกคนที่มาที่นี่ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงของพวกเสรีนิยม” วาเลอรีย์ วัย 79 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุม เผย
“ผมมาที่นี่เพราะไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายเหมือนเช่นลิเบีย”
หลายวันมานี้เกิดกระแสร้องเรียนว่า พนักงานของรัฐจำนวนมากได้รับอามิสสินจ้างหรือแม้แต่คำสั่งให้มาชุมนุมสนับสนุน ปูติน โดยมีการจัดรถบัสเพื่อนำประชาชนจากภูมิภาคต่างๆมายังจุดชุมนุมด้วย
หนังสือพิมพ์ของกลุ่มฝ่ายค้าน โนวายา กาเซ็ตตา รายงานว่า แม้แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ถูกบังคับให้มาเดินขบวนสนับสนุน ปูติน เช่นกันโดยอ้างคำพูดของผู้ช่วย ส.ว. คนหนึ่งซึ่งไม่ขอเอ่ยนามว่า “พวกเขาเสียสติไปหมดแล้ว”
พยาบาลคนหนึ่งซึ่งทำงานในโรงพยาบาลย่านเซเลโนกราดในกรุงมอสโก เผยว่า สัปดาห์นี้เพื่อนร่วมงานของเธอได้รับค่าจ้างคนละ 3,000 รูเบิล (ราว 3,100 บาท) ให้มาชุมนุมสนับสนุนนายกรัฐมนตรี โดยมีพยาบาล 15 คนที่ยอมไป
ด้าน ปูติน ก็ยอมรับระหว่างไปเยือนภูมิภาคเชลยาบิสก์แถบเทือกเขาอูราลว่า อาจมีการเกณฑ์ “ทรัพยากรของรัฐ” มาร่วมชุมนุมบ้างก็จริง แต่นั่นไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตใดจึงมีผู้สนับสนุนเขามากมายเช่นนี้ สำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ รายงาน
ปูติน ยังกล่าวอย่างจริงจังว่า พร้อมจะจ่ายค่าปรับแทนผู้จัดการชุมนุมสนับสนุนตนเอง หลังปรากฎว่ามีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมมากกว่าที่ยื่นคำร้องต่อทางการกรุงมอสโกไว้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2554 21:38 น.
''ปูติน''อ้างรัสเซียส่วนใหญ่ยัง''หนุน''แม้ประชาชนเรือนแสนชุมนุมขับไล่
เอเอฟพี - วลาดิมีร์ ปูติน บุรุษเหล็กแห่งรัสเซีย ยังคงได้รับความสนับสนุนจากประชาชนชาวรัสเซียส่วนใหญ่ โฆษกของเขาแถลงในวันอาทิตย์(25) ภายหลังที่มีผู้สนับสนุนฝ่ายค้านหลายหมื่นคนร่วมชุมนุมในมอสโกเมื่อวันเสาร์ (24) เพื่อประท้วงการเลือกตั้งที่กล่าวหากันว่ามีการโกงกันขนานใหญ่ ขณะเดียวกัน มิฮาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต ก็เรียกร้องให้ปูตินลาออก
ผู้ประท้วงจำนวนมากร่วมการชุมนุมประท้วงในกลางกรุงมอสโกวันเสาร์ โดยพวกเขาได้ตะโกนคำขวัญต่อต้านนายกรัฐมนตรีปูติน และเรียกร้องให้ประกาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างของรัฐสภาในต้นเดือนนี้เป็นโมฆะ
ตำรวจระบุว่า ผู้ชุมนุมคราวนี้มี 29,000 คน ขณะที่ผู้จัดการประท้วงกล่าวว่ามี 120,000 คน ทางด้านพวกผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีบอกว่า การชุมนุมคราวนี้มีผู้คนเข้าร่วมมากกว่าการชุมนุมครั้งแรกเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีน้ำเสียงที่ต่อต้านปูตินรุนแรงกว่าด้วย
การขึ้นเวทีปราศรัยของแกร์รี คาสปารอฟ อดีตแชมป์หมากรุกโลก และอเล็กเซย์ คูดริน อดีตรัฐมนตรีคลัง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมดูมีความมั่นใจอีกครั้ง หลังจากมีการฝ่าฝืนข้อห้ามและจัดชุมนุมใหญ่ครั้งแรกเมื่อสืบกว่าวันที่ผ่านมา
คลื่นการประท้วงใหญ่ครั้งแรกในรอบ 20 ปีภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ถือเป็นการแสดงความโกรธเกรี้ยวครั้งใหญ่ที่สุดของชาวรัสเซียนับจากช่วงแห่งความปั่นป่วนวุ่นวายในทศวรรษ 1990 และเป็นการท้าทายปูตินครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่บุรุษผู้นี้ปกครองรัสเซีย
การประท้วงเพิ่มความกดดันให้ปูตินปฏิรูประบบเลือกตั้งที่มีการควบคุมแน่นหนาของรัสเซียอย่างถอนรากถอนโคน ขณะที่เขาวางแผนหวนคืนสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งเดือนมีนาคมปีหน้า หลังจากกินตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา 4 ปี ซึ่งหากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ปูตินจะรั้งเก้าอี้ยาวจนถึงปี 2024
สัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ประกาศปฏิรูปเพื่อเอาใจผู้ประท้วง ซึ่งรวมถึงการรื้อฟื้นระบบการเลือกตั้งผู้ว่าการระดับภูมิภาค แต่ดูเหมือนเป็นข้อเสนอที่ห่างไกลจากข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ต้องการให้มีการจัดเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาใหม่
อเล็กเซย์ นาวัลนี หนึ่งในผู้นำการประท้วง ประกาศกร้าวว่า การประท้วงครั้งหน้าจะมีผู้เข้าร่วมถึง 1 ล้านคน ซึ่งแม้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นเมื่อใด แต่กลุ่มแกนนำสำคัญระบุว่า น่าจะเป็นวันที่ 14 มกราคม
ขณะเดียวกัน มิคาอิล กอร์บาชอฟ วัย 80 ปี ที่วิจารณ์การเลือกตั้งอย่างรุนแรงและเชื่อว่าเข้าร่วมชุมนุมด้วย ได้ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุมอสโก เอ็กโค แนะให้ปูตินลาออกทันที เพราะการดำรงตำแหน่งมาถึง 3 สมัยคือ ประธานาธิบดี 2 สมัย และนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย น่าจะเป็นการเพียงพอแล้ว
“เขาควรทำแบบที่ผมเคยทำ เพื่อรักษาคุณงามความดีที่เคยกระทำไว้” กอร์บาชอฟ ที่ครั้งหนึ่งเคยชื่นชอบปูติน อ้างอิงถึงการที่ตัวเขาลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 1991 เมื่อโซเวียตล่มสลาย
มีรายงานว่านอกจากในมอสโกแล้ว ยังมีการชุมนุมในเมืองอื่นๆ ของรัสเซีย เช่น ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่มีข่าวว่ามีผู้ชุม 4,000 คน และ 2,000 คนในโนโวไซบิริสก์ ท้าทายสภาพอากาศเย็นเยือกติดลบ 15 องศาที่วัดได้ในไซบีเรีย
ทางด้าน ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกของปูติน บอกกับเอเอฟพีวานนี้ว่า ในฐานะนักการเมืองและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ปูตินยังคงได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ และเราควรที่จะปฏิบัติต่อความคิดเห็นของคนส่วนข้างมากด้วยความเคารพ
เปสคอฟยอมรับว่าได้เกิดการประท้วงขึ้นมาแล้ว และกล่าวว่าจุดยืนของผู้ประท้วงเหล่านี้ได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ โดยถือว่าพวกเขาก็เป็นส่วนที่สำคัญมากของสังคม “แต่พวกเขาคือคนส่วนข้างน้อย” โฆษกของปูตินกล่าวย้ำ
ตำรวจรวบตัวผู้ประท้วงรัฐบาลในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับสองของรัสเซีย เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม
ส่งกำลังคุมเข้ม''มอสโก''หลังชาวรัสเซียประท้วงต่อต้าน''ปูติน''
เจ้าหน้าที่ตำรวจแดนหมีขาว ระบุว่า ประชาชนชาวรัสเซียประมาณ 3,000 - 5,000 คน ได้ชุมนุมประท้วงที่กลางกรุงมอสโกเมื่อวันจันทร์ (5) โดยที่มีจำนวน 1,500 - 2,000 คน ได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังที่ทำการของคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัสเซียด้วย
ตำรวจระบุว่า พวกเขาได้จับกุมผู้ประท้วง 300 คน ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวผู้มีชื่อเสียงอย่าง อิลยา ยาชิน และอเล็กเซ นาวอลนี เจ้าของบล็อกโจมตีรัฐบาล หลังจากผู้ประท้วงได้เดินขบวนมุ่งสู่จัตุรัสลูบยันกา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานความมั่นคงกลางของรัสเซีย (เอฟเอสบี)
ออลกา ชอรินา โฆษกหญิงของกลุ่มเคลื่อนไหว “โซลิดาร์นอสต์” ซึ่งเป็นแกนนำการประท้วงคราวนี้ ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า จนถึงช่วงเช้าวันอังคาร (6) มีผู้ประท้วงราว 250 คน ถูกจับกุมตัว และหลายคนอาจถูกกักขังเป็นเวลา 15 วัน
รายงานข่าวจากรอยเตอร์ ระบุว่า ผู้ประท้วงพากันร้องตะโกนให้มีการ “ปฏิวัติ” และเรียกร้อง “รัสเซียที่ไม่มีปูติน” ตลอดจน “ปูตินควรอยู่ในคุก” นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวซึ่งบ่งบอกถึงความเอือมระอาของประชาชนที่มีต่อตัวปูติน ผู้ซึ่งกำลังเตรียมการจะหวนคืนสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีอีกเป็นสมัยที่ 3 ในการเลือกตั้งผู้นำประเทศเดือนมีนาคม ปี 2012
หลังการประท้วงสิ้นสุดลง กระทรวงมหาดไทยรัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้าไปในมอสโก พร้อมกับยกระดับเตือนภัย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวง
“พวกเขา (กองกำลัง) มีเพียงเป้าหมายเดียวนั่นคือ การรับประกันความปลอดภัยของพลเมือง” โฆษกกองกำลังของกระทรวงมหาดไทย พันเอก วาซิลี ปานเชนคอฟ กล่าวกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์
นอกเหนือจากเมืองหลวงหมีขาวแล้ว ตำรวจยังระบุด้วยว่า พวกเขาได้จับผู้ประท้วงประมาณ 100 คน ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับสองของรัสเซีย หลังจากคนเหล่านี้พยายามจะจัดการเดินขบวนบนถนนทางหลวงสายหลัก เนฟสกี โปรสเปคต์ เมื่อวันจันทร์ (5)
ทั้งนี้ปูติน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เผชิญกับความเสื่อมถอยในสนามเลือกตั้งครั้งเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่ที่บุรุษเหล็กผู้นี้ก้าวขึ้นมากุมอำนาจทางการเมืองในวังเครมลินเมื่อ 12 ปีที่แล้ว โดยที่พรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ของเขา ได้คะแนนโหวตในการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่าง หรือ “สภาดูมา” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (4) เกิน 50 เปอร์เซ็นต์แค่เล็กน้อย พร้อมกับคว้าที่นั่งส.ส.ได้เพียง 238 จากทั้งหมด 450 ที่นั่ง ลดฮวบลงเมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งหนก่อนในปี 2007 ที่พรรคได้คะแนนเสียงถึง 64 เปอร์เซ็นต์ และได้ที่นั่งส.ส. 315 ที่นั่ง
นอกจากผลการเลือกตั้งซึ่งทำให้พรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ออกอาการจ๋อยแล้ว พรรคฝ่ายรัฐบาลนี้ยังถูกกดดันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าพวกเขาได้ทุจริตทั้งก่อนและระหว่างการเลือกตั้ง โดยองค์กรสังเกตการณ์การเลือกตั้งอิสระหลายกลุ่มในยุโรปนำโดยโอเอสซีอี ระบุว่า โพลการเลือกตั้งถูกบิดเบือนชี้นำเพื่อผลประโยชน์ของพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย นอกจากนี้ยังมีการทุจริตต่างๆ นานา ซึ่งรวมถึงการที่ผู้ออกเสียงบางรายลงคะแนนในบัตรคะแนนเสียงหลายใบในหลายเขตด้วย
ขณะเดียวกันโฆษกทำเนียบขาว และฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็ได้แสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อกระบวนการเลือกตั้งในรัสเซียคราวนี้
ส่วนมิฮาอิล กอร์บาชอฟ อดีตผู้นำยุคสหภาพโซเวียต ผู้ซึ่งเคยนำพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ไปเปรียบเทียบกับพรรคคอมมิวนิสต์สมัยโซเวียต และยังเคยเสนอแนะไม่ให้ปูตินลงเลือกตั้งประธานาธิบดีอีก ก็ได้ออกมาผสมโรงจวกการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า “ไม่สุจริตอย่างที่สุด”
“พวกเรายังไม่มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และพวกเราก็จะไม่ได้รับมัน หากว่ารัฐบาลยังคงเกรงกลัวประชาชนของพวกเขาเอง หรือเกรงกลัวที่จะพูดอะไรแบบเปิดเผย” กอร์บาชอฟ ให้สัมภาษณ์วิทยุเอคโฮ มอสค์วี
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีดมิตรี เมดเวเดฟ ผู้ซึ่งเตรียมจะสลับลงไปนั่งเก้าอี้นายกฯ แทนปูติน โต้แย้งว่า การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์นั้น มีความ “ยุติธรรม สุจริต และเป็นประชาธิปไตย”
ขณะที่ปูติน อดีตสายลับเคจีบี วัย 59 ปี ก็ออกมากล่าวปกป้องผลงานการเลือกตั้งของพรรคในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เสียงอย่างน้อย 226 เสียงในสภาดูมาที่พรรคมีอยู่ในมือ ก็เพียงพอต่อการผ่านกฎหมายส่วนใหญ่ในสภาล่างแล้ว และก็เพียงพอสำหรับการรักษาเสถียรภาพในประเทศเอาไว้ด้วย
“ยูไนเต็ด รัสเซีย เป็นส่วนสำคัญของรากฐานความความมั่นคงทางการเมืองของประเทศเราตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ ผลงานอันประสบความสำเร็จของพรรคในการเลือกตั้ง จึงมีความสำคัญไม่ใช่แค่เพียงต่อรัฐบาลเท่านั้น แต่ตามทัศนะของผมนั้น มันสำคัญต่อประเทศทั้งหมดด้วย” ปูติน กล่าว
รัสเซียแห่ประท้วงผลเลือกตั้ง เมดเวเดฟยันโปร่งใส-เป็นปชต.
มอสโก (เอพี/รอยเตอร์ส) - ตำรวจรัสเซียควบคุมตัวประชาชนกว่า 300 คนที่พยายามชุมนุมประท้วงต่อต้านผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้นำรัสเซียยันพอใจผลการเลือกตั้ง และว่าเป็นการเลือกตั้งที่โปร่งใสตามระบอบประชาธิปไตย
สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนโวสติ ของรัสเซียรายงานอ้างตำรวจรัสเซียกล่าวว่า ในจำนวนผู้ที่ถูกควบคุมตัวมีนายอเล็กไซ นาวาลนี นักเขียนบล็อกต่อต้านการคอร์รัปชั่นที่มีชื่อเสียงรวมอยู่ด้วย รายงานบนเว็บไซต์แห่งหนึ่งระบุว่า ประชาชนประมาณ 5,000 คน มารวมตัวกันท่ามกลางสายฝนกลางกรุงมอสโกเพื่อประท้วงให้กับนักเสรีนิยมที่ถูกห้ามมีส่วนร่วมการเลือกตั้งและกล่าวหานายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน และพรรคของเขาว่าโกงการเลือกตั้ง ผู้ประท้วงหลายร้อยคนพยายามเดินขบวนไปยังคณะกรรมการเลือกตั้ง แต่ถูกตำรวจสกัดไว้ และมีรายงานว่าตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ประท้วงประมาณ 100 คน ที่เมืองเซนท์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งประท้วงติดต่อกันเป็นวันที่สอง
การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ของนายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ชนะการเลือกตั้งโดยได้ 238 ที่นั่งในสภาดูมา ลดลงจากที่เคยได้ 315 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อปี 2550 ทำให้ไม่สามารถครองที่นั่งได้ถึง 2 ใน 3 ซึ่งจะทำให้พรรคมีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญและเห็นชอบดำเนินการถอดถอนประธานาธิบดีอย่างไรก็ดี มีรายงานหลายกระแสเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายเลือกตั้งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มผู้สังเกตการณ์จากยุโรปที่นำโดยองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือโอเอสซีอี
ขณะที่ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย กล่าวต่อบรรดาผู้สนับสนุนว่า เขาพอใจผลการเลือกตั้งที่ออกมา พรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ได้เสียงสนับสนุนตามเป้าที่ตั้งไว้ แสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามระบอบประชาธิปไตย
เชียร์ปูติน- กลุ่มผู้สนับสนุนนายวลาดิเมียร์ ปูติน นายกฯรัสเซีย รวมตัวที่จัตุรัสมาเนสนายา กลางกรุงมอสโก แสดงพลังตอบโต้ หลังจากพรรคยูไนเต็ด รัสเซียของปูตินชนะการเลือกตั้งและโดนกล่าวหาว่าไม่โปร่งใสจนมีม็อบออกมาต่อต้าน เมื่อ 6 ธ.ค. (เอเอฟพี)
ม็อบต้านปูตินใช้เฟซบุ๊กปลุกระดม
อินเตอร์แฟ็กซ์ รายงานว่า วันที่ 6 ธ.ค. ชาวรัสเซียผู้ต่อต้านนายวลาดิเมียร์ ปูติน นายกรัฐ มนตรีผู้ทรงอิทธิพลของประเทศ ประกาศชัยชนะ ในการใช้เว็บไซต์เฟซบุ๊กปลุกระดมผู้คนออกมาเดินขบวนต่อต้านปูตินได้สำเร็จ หลังการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันอาทิตย์ พรรคยูไนเต็ดรัสเซียของปูตินคว้าชัยชนะ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของผู้สังเกตการณ์จากยุโรปว่าไม่โปร่งใส
ฝ่ายต่อต้านใช้เฟซบุ๊กแพร่ข่าวการประท้วง การจับกุม รวมทั้งปลุกระดมมวลชนให้ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนกลางกรุงมอสโก เนื่อง จากสื่ออื่นทั้งทีวีและวิทยุถูกทางการควบคุมและเซ็นเซอร์ โดยการชุมนุมเริ่มขึ้นตั้งแต่ค่ำวันจันทร์ แม้อากาศจะเย็นจัดและมีฝนตกโปรยปราย ผู้ชุมนุมใช้การโพสต์วิดีโอและขู่ว่าจะปลุกระดมคนให้ออกมาประท้วงเพิ่มขึ้นอีก พร้อมเรียกความเคลื่อนไหวนี้ว่า ''เฟซบุ๊กแรลลี่'' ซึ่งตำรวจระบุว่ามีผู้ชุมนุมราว 2,000 คน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศว่ามีผู้เข้าร่วมนับหมื่นคน
ด้านกระทรวงมหาดไทยรัสเซียและกรมตำรวจกรุงมอสโกส่งกองกำลังราว 4,000 นาย มุ่งหน้าไปดูแลความสงบในกรุงมอสโก จับกุม ผู้ประท้วงไปแล้วร่วม 300 คน นอกจากนี้ศาลยังสั่งขังอิลยา ยาชิน ผู้นำการประท้วงเป็นเวลา 15 วัน ฐานละเมิดคำสั่งตำรวจ
ตร.รัสเซียปะทะผู้ประท้วง
ตำรวจรัสเซีย ได้ปะทะกับผู้ประท้วงในกรุงมอสโคว์ ที่กล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้ง และอีกอย่างน้อย 2 เมืองใหญ่ ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจที่มีต่อนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูตินและพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ของเขา เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
มีผู้ถูกจับกุมไปแล้วอย่างน้อย 250 คน ในระหว่างการประท้วงใจกลางกรุงมอสโคว์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา รวมทั้งพวกที่ขว้างดอกไม้ไฟใส่กลุ่มยุวชนที่สนับสนุนทำเนียบเครมลินด้วยด้านสำนักข่าวหลายแห่งของรัสเซีย รายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมราว 200 คน ในความพยายามที่จะจัดการชุมนุมประท้วงที่ไม่ได้รับอนุญาตแบบเดียวกัน ที่นครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และมีผู้ถูกจับอีก 25 คน ที่เมืองรอสตอฟ ออน ดอน ซึ่งการประท้วงในมอสโคว์ได้สิ้นสุดลง หลังจากผ่านไป 3 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนการประท้วงที่อื่น ๆ จบลงเพราะตำรวจเข้าสลายการชุมนุม
.นับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ต่อเนื่องกัน เป็นวันที่ 2 แล้ว ทั้งในมอสโคว์และเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กการรวมตัวแสดงความไม่พอใจต่อเนื่องของฝูงชนได้แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ โดยทั่วไปแล้ว
ตำรวจรัสเซียจะกวาดล้างการประท้วงโดยไม่รับอนุญาตอยู่เสมอ และผู้ต้องใช้เวลานานกว่าจะรวมตัวกันติด แต่ครั้งนี้ ผู้ประท้วงสามารถรวมตัวกันได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการประท้วงที่เกิดขึ้น หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันอาทิตย์ ที่พรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ได้ที่นั่งมากที่สุดในสภาดูม่า แม้จะเสียที่นั่งไปบ้างแต่ก็ยังครองเสียงส่วนใหญ่ ที่พรรคฝ่ายค้านพากันร้องเรียนว่า เป็นผลมาจากการโกงการเลือกตั้ง
ผู้สังเกตการณ์ทั้งในท้องถิ่นและสากล ต่างรายงานเรื่องการแอบยัดบัตรลงคะแนน และนับคะแนนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ประท้วงที่ออกมาในครั้งนี้ มีทั้งพวกที่ไม่พอใจต่อรายงานเรื่องการโกงการเลือกตั้ง และแรงขับที่ผลเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่า เสียงสนับสนุนที่ลดลงเรื่อย ๆของนายกรัฐมนตรีปูตินกับพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ของเขา ซึ่งกำลังบดบังอิทธิพลทางการเมืองที่ครอบงำรัสเซียมานานถึง 12 ปี
ปธน.รัสเซียสั่งสอบโกงเลือกตั้งหลังคลิปแฉว่อนเน็ต
ประธานาธิบดีรัสเซียสั่งสอบสวนข้อร้องเรียนโกงการเลือกตั้งแล้ว หลังมีคลิปวิดีโอมากมายแฉภาพการโกงเลือกตั้งสารพัดรูปแบบ
ขณะนี้ มีคลิปวิดีโอ เผยแพร่ภาพการกระทำที่ละเมิดกฎหมายเลือกตั้งในรัสเซีย เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตมากมาย ต่อเนื่องนับตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่าน (4ธ.ค.) และหนึ่งในคลิปดังกล่าว เป็นภาพที่อาสาสมัครสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ถ่ายไว้ได้ที่หน่วยเลือกตั้งในกรุงมอสโกและเพิ่งเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตเมื่อวันอังคาร (6ธ.ค.)
ทั้งนี้ อาสาสมัคร ระบุว่า เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งชายคนหนึ่ง ได้สับเปลี่ยนบัตรเลือกตั้ง และทำเครื่องหมายลงคะแนนบนบัตรที่อยู่บนโต๊ะ ซึ่งเชื่อว่า เป็นการโกงเลือกตั้ง จึงได้ตะโกนว่า มีการกระทำละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง พร้อมทั้งเรียกให้ผู้สังเกตการณ์คนอื่นมาดู แต่เจ้าหน้าที่คนนั้นปฏิเสธและไม่ยอมให้ดูบัตรเลือกตั้งที่วางอยู่บนโต๊ะ และคลิปนี้ที่ปรากฏในเวบไซต์ยูทูบ มีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านครั้งแล้ว
ขณะนี้ กระแสความไม่พอใจ ผลการเลือกตั้งรัสเซีย กำลังเพิ่มมากขึ้นหลังพรรคยูไนเต็ด รัสเซียของนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน ชนะเลือกตั้งแม้ได้คะแนนเสียงลดลงเหลือแค่ 49.3% ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับการโกงการเลือกตั้ง เช่น การยัดไส้บัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนไว้แล้ว การไล่ผู้สังเกตการณ์ออกจากหน่วยเลือกตั้ง และการโกงผลคะแนน
ด้านประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ได้ประชุมกับนายวลาดิมีร์ ชูรอฟ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง และสั่งให้สอบสวนข้อร้องเรียนโกงการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ก็บอกด้วยว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเสียงวิจารณ์เรื่องการละเมิดกฎหมายเลือกตั้งต่างๆหลังทราบผลคะแนน แต่คลิปวิดีโอทั้งหลายที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตในขณะนี้ยังไม่อาจยืนยันการกระทำผิดได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง และคงไม่ถูกต้อง ที่จะสรุปว่าการเลือกตั้งขาวสะอาดหรือไม่ด้วยหลักฐาน เพียงแค่นี้ เพราะเป็นการไม่ยุติธรรม
เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์ข่าวของทางการรัสเซียเลือกที่จะปิดหูปิดตาประชาชน โดยไม่นำเสนอรายงานการประท้วงหลังการเลือกตั้งที่ปะทุขึ้นกลางกรุงมอสโก และเมืองอื่นๆ ทั้งนี้ เว็บไซต์ข่าวบนโลกอินเตอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางเดียวที่ประชาชนจะสามารถรับรู้ข่าวประท้วงได้
TV รัสเซียปิดหูปิดตาประชาชน เจตนาไม่เสนอข่าวประท้วงเลือกตั้ง
ช่วงเย็นวันอังคาร (6) ตำรวจรัสเซียจับกุมผู้ประท้วงอย่างน้อย 300 คน จากจัตุรัสกลางกรุงมอสโก ทว่า สถานีข่าวช่องหลักๆ ของประเทศกลับพยายามรายงานข่าวที่มีความสำคัญน้อยกว่า เช่น การเปิดตัวแองเจลินา โจลี ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ หรือข่าวผู้หญิงรัสเซียถูกจับในต่างประเทศ จากคดีปลอมธนบัตร 100 ดอลลาร์
สถานีข่าว “รอสซิยา 24” ก็เลือกตามข่าวการติดป้ายบนตัวกวางเรนเดียร์ในดินแดนตอนเหนืออันไกลโพ้น แต่ไม่มีการกล่าวถึงกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลที่ชุมนุมใหญ่เป็นครั้งที่สองในรอบ 2 วัน เนื่องจากไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่กล่าวกันว่ามีการโกงบัตรลงคะแนน
เยคาเตรินา อันเดรเยวา ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ “แชนแนลวัน” สื่อทีวีที่ได้รับความนิยมสูงสุด เสนอข่าวการชุมนุมในมอสโก แต่เป็นการชุมนุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มยุวชนพรรครัฐบาล
สตานิสลาฟ คูเชียร์ ผู้สื่อข่าวสายการเมืองของสถานีวิทยุ “คอมเมียร์ซันต์ เอฟเอ็ม” อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาประณามพฤติกรรมของนักข่าวสถานีโทรทัศน์ของรัฐช่องต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์คอมเมียร์ซันต์ เอฟเอ็ม ว่า “พวกคุณกำลังปิดบังข้อมูลไม่ให้ประชาชนเป็นล้านๆ คนรับรู้ ... วันนี้ คุณกำลังทำลายศักดิ์ศรีตัวเองและอาชีพสื่อสารมวลชน”
ผ่านมาจนถึงวันนี้ (7) สถานีโทรทัศน์แชนแนลวันก็ยังเพิกเฉย ไม่รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยช่วงข่าวเที่ยง กลับนำเสนอเรื่องเครื่องบินลงจอดเลยรันเวย์ แต่ไม่มีใครบาดเจ็บ เป็นข่าวพาดหัว รวมถึงข่าวนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน พิจารณาแผนขยายพิพิธภัณฑ์ปุชกินในกรุงมอสโก และการพบสารกัมมันตภาพรังสีในนมผงเด็กของญี่ปุ่น
ภาพข่าวผู้ประท้วงขว้างระเบิดเพลิงและตำรวจในชุดปราบจลาจลได้รับการนำออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ของกรีซ ทว่า กลับไม่ปรากฏบนโทรทัศน์รัสเซีย
สถานีโทรทัศน์ “เอ็นทีวี” สื่อของบริษัทก๊าซพรอม ก็เลี่ยงไปเสนอข่าวอิสราเอล กรีซ และงานครบรอบ 70 ปี การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ส่วนข่าวภายในประเทศก็รายงานเรื่องความเสียหายของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง และข่าวฟุตบอล
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ข่าวกลายเป็นเครื่องมือหลักในการนำเสนอรายงานการประท้วง
แม้กระทั่งองค์กรสื่อของรัฐก็เสนอข่าวนี้ โดยสำนักข่าว “เรีย โนโวสตี” ได้ใจประชาชน หลังนำเสนอรายงานการประท้วงสดผ่านเว็บไซต์
ทว่า แหล่งข่าวสำคัญสำหรับการติดตามข่าวประท้วงของคนรัสเซียกลับกลายเป็น “ดอจด์” สถานีโทรทัศน์อิสระทางอินเตอร์เน็ต โดยนักข่าวจากสถานีดอจด์ลงเกาะติดสถานการณ์ตั้งแต่ประชาชนเริ่มการชุมนุมวันแรก รวมทั้งมีการถ่ายทอดสด
“ตำรวจปราบจลาจล 5 คน รุมจับกุมผู้ประท้วงเพียงคนเดียว” คารีน ออร์โลวา โทรศัพท์รายการสดมายังสถานี “ดูเหมือนตำรวจได้รับคำสั่งให้จับกุมคนตามจำนวนที่กำหนดไว้แล้ว”
นอกจากนี้ ออร์โลวาได้เดินทางไปรายงานข่าวการชุมนุมของยุวชนยูไนเต็ด รัสเซีย ซึ่งทางแชนแนลวันเสนอรายงาน ทว่า ผลการรายงานข่าวกลับออกมาแตกต่างกัน
“มีคนน้อยมาก ... พวกเขาถูกเกณฑ์มาจากแคว้นสโมเลนสค์กับแคว้นบรีอันสค์ พวกเขายังไม่รู้เลยว่า ต้องมาทำอะไรที่นี่”