เพชรรัสเซีย, เพชรสวิส, ซีแซด, เพชรเทียม, เพชรสังเคราะห์ (เรียกต่างๆ กันไปแต่ หมายถึง เพชรรัสเซีย)
เพชรรัสเซีย (Cubic zirconia) เป็นเพชรที่สร้างขึ้นมาจากการตกผลึกของผงเซอร์โคเนียม (zirconium dioxide) (ZRO2). มันแข็ง,ไร้ตำหนิและราคาไม่แพง. มันทำได้หลายสี แต่ที่มีชื่อเสียงคือเพชรรัสเซียสีขาว (white cubic zirconia) เพราะเพชรเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดคือเพชรอเมริกัน (American diamond (AD)).
เพชรรัสเซีย (Cubic zirconia) แข็งมากกว่าพลอย semi precious ธรรมชาติ เกินกว่าจุดหลอมเหลวสูงสุดที่ 2750 องศาเซลเซียส.
เพชรรัสเซียหรือเพชรเทียม
เพชรเทียมถูกผลิตขึ้นมาเลียนแบบการผลิตของธรรมชาติ โดยย่นเวลาของธรรมชาติหลายล้านปีมา ในตลาดเพชรเทียมแบ่งแยกไว้ดังนี้
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของเพชรและเพชรเทียมต่างๆ
ชนิดเพชร |
องค์ประกอบ |
การหักเหแสง |
ค่าดัชนีหักเหแสง |
การกระเจิงแสง |
ความแข็งโมห์ |
การส่องผ่าน |
ความถ่วงจำเพาะ |
เพชร |
C |
เดี่ยว |
2.42 |
0.044 |
10 |
ไม่ได้ |
3.52 |
ซีแซด |
ZrO2 |
เดี่ยว |
2.15 |
0.060 |
8.5 |
ได้ปานกลาง |
5.95 |
มอยซันไนต์ |
SiC |
คู่ |
2.65 -2.69 |
0.104 |
9.25 |
ไม่ได้ |
3.21 |
เซอร์คอน |
ZrSiO4 |
คู่ |
1.92 -1.98 |
0.038 |
7.5 |
ได้ปานกลาง |
4.70 |
ซัฟไฟร์ |
Al2O3 |
คู่ |
1.76 -1.77 |
0.018 |
9 |
ได้ชัดมาก |
4.00 |
จีจีจี (GGG) |
Gd3Ga2Ga3O12 |
ี เดี่ยว |
1.970 |
0.045 |
6.5 |
ได้ปานกลาง |
7.05 |
แย็ก(YAG) |
Y3Al2Al3O12 |
เดี่ยว |
1.83 |
0.028 |
8.5 |
ได้ชัด |
4.55 |
สตอรนเทียม ไททาเนต |
SrTiO3 |
เดี่ยว |
2.41 |
0.190 |
5 -6 |
ไม่ได้ |
5.13 |
รูไทล์ |
TiO2 |
คู่ |
2.62 -2.90 |
0.330 |
6 -6.5 |
ไม่ได้ |
4.26 |
ความแตกต่างระหว่าง CZ กับ เพชรแท้
- หากดูด้วยตาเปล่าจากภายนอก CZ ดูแทบเหมือนกับเพชรที่มีคุณภาพสูงทุกประการ ส่งที่ต่างกันเล็กน้อยแม้กระทั่งนักอัญมณีศาสตร์ยังยากที่จะบอกหากไม่มีเครื่องมือ ก็คือ CZ จะมีประกายน้อยกว่าเพชรเล็กน้อย ในขณะที่ CZ มีไฟ (แสงวุบวับสีรุ้ง) มากกว่าเพชรเล็กน้อย
- ความแข็งอยู่ที่ 8.5 -9 ต่อ 10 ของเพชรแท้ ตามมาตรา Moh's scale
- น้ำหนักมากว่าเพชรแท้ 1.7 เท่า (cz หนักกว่าเพชรถึง 75% ดังนั้นในน้ำหนักที่เท่ากัน cz จะมีขนาดที่เล็กกว่า)
- เนื้อเพชรแตกต่างกับเพชรแท้แต่ต้องใช้กล้องขยายไม่ต่ำกว่า 10 เท่าถึงจะเห็นความแตกต่าง
- สี สามารถทำให้ไร้สี (Colorless) ในระดับ D Color หรือ Perfect D ได้ทีเดียว ในขณะที่เพชรแท้นั้น จะหาได้ยากมาก ส่วน CZ ที่มีสีเกิดจากการเติมสารเข้าไป
คุณสมบัติต่าง ๆ ของ CZ
สามารถสังเคราะห์ให้ใกล้เคียงกับเพชรแท้ได้ ซึ่งก็หมายถึงเกรดงานของ cz ฉะนั้นจึงมีหลายเกรด เกรดของ cz ที่ใช้ในท้องตลาดเรียงจากราคาแพงที่สุดไปถูกที่สุดคือ Costume Grade > Regular Grade > Commercial Grade
ซีแซด (Cubic Zirconia)
ซีแซด จัดได้ว่าเป็นเพชรเทียมที่มาแรงที่สุด ด้วยความคล้ายเพชรแท้ ซีแซด เป็นคำย่อมาจาก คิวบิก เซอร์โคเนีย (Cubic Zirconia) ซีแซดเริ่มผลิตครั้งแรกในปี ค.ศ. 1977 โดยใช้สารประกอบเซอร์คอเนีย (ZrO2) หลอมที่อุณหภูมิสูง มีโครงสร้างผลึกในระบบคิวบิก หรือสี่เหลี่ยมลูกเต๋า (Cubic Crystal) คือมีความยาวของแกนผลึก 3 แกนเท่ากันและตั้งฉากกัน จึงเป็นที่มาของชื่อว่า คิวบิก เซอร์คอเนีย
ซีแซด มีการหักเหเดี่ยวเช่นเดียวกับเพชรแท้ เพชรเทียมซีแซดมีเนื้อใสสะอาดแทบปราศจากมลทินใดๆ ในขณะที่เพชรธรรมชาติส่วนใหญ่จะมีมลทินประปน
การจัดเกรดของซีแซด จึงขึ้นอยู่กับการเจียระไน โดยทั่วไปมักเจียระไนเป็นรูปกลม การเจียระไนที่ได้สัดส่วนพอเหมาะจะทำให้ซีแซดมีไฟไม่แพ้เพชรจริง โดยเฉพาะเมื่อใส่ในตัวเรือนแล้วแทบจะแยกด้วยตาเปล่าไม่ออก
รูปทรงของการเจียรนัยเพชร
เพชรสวิส ชื่อเดิมเพชรรัสเซีย Cubic Zirconia (ZrO2)
เพชรสวิส หรือ เพชรรัสเซีย
หมายถึง คิวบิค เซอร์โคเนีย (Cubic Zirconia หรือเรียกสั้น ๆ ว่า CZ) มีชื่อทางเคมีคือ Zirconium Oxide หรือ ZrO 2 ถือเป็น สารที่หาได้ยาก ตามธรรมชาติ แต่เป็นที่รู้จักกัน โดยทั่วไป ในฐานะของ สารสังเคราะห์ ที่ใกล้เคียงกับเพชร (Diamond) ซึ่งผลจากการ สังเคราะห์จะได้สารที่แข็ง, ไร้ตำหนิ, และมักจะไม่มีสี นอกจากจะเติมเข้าไป เพื่อความสวยงาม
CZ เป็นเพชรที่มนุษย์สร้างขึ้น มาจากผงเซอร์โคเนีย (Zirconia) โดยวิธีการที่เรียกว่า Skull Metting ผลิตขึ้นเป็นครั้งแรก โดยกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ ชาวรัสเซีย เพื่อทำเครื่องประดับ แทนเพชร แต่ราคาต่างกันมาก ด้วยเหตุนี้จึงถูกเรียกว่า เพชรรัสเซีย พลอยสังเคราะห์ชนิดนี้ มีประกาย และการกระจายแสง ดีเกือบเท่าเพชร ดูคล้ายเพชรมากที่สุดในหมู่พลอย เลียนแบบเพชรด้วยกัน ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น Syn Kutile, zircon, Y.A.G.,G.G.G.,Strontium Titauate มีการใช้คิวบิคเซอร์โคเนีย แทนพลอย
เพชรสวิส หรือ เพชรรัสเซีย ย่อมาจาก Cubric Zircunia (ZrO2)
คือเพชรสังเคราะห์ ที่มีคุณสมบัติเหมือนเพชรแท้ จนแยกด้วยตาเปล่าไม่ได้ นำมาทำเครื่องประดับ หัวแหวน จี้ กำไล
1. ความแข็งอยู่ที่ 8.5-9 ต่อ 10 ของเพชรแท้
2. น้ำหนักมากกว่าเพชรแท้ 1.7เท่า
3. เนื้อเพชรแตกต่างกับเพชรแท้แต่ต้องใช้กล้องขยายไม่ต่ำกว่า 10 เท่าถึงจะเห็นความแตกต่าง
4. สี สามารถทำให้ไร้สีในระดับ D Color หรือ Perfect D ได้ทีเดียว ส่วน Cz ที่มีสีก็เกิดจากการเติมสารเข้าไป
วิธีดูเพชรแท้ กับเพชรเทียมว่าดูอย่างไร
เพชรแท้ แสดงว่า เป็นของธรรมชาติ
เพชรเทียม แสดงว่า ไม่ใช่เพชรแท้
เพชรเทียมนี้อาจจะเป็นของธรรมชาติที่เขานำมาเลียนแบบธรรมชาติก็ได้ หรือเป็นของสังเคราะห์สร้างโดยฝีมือมนุษย์เพื่อนำมาเลียนแบบเพชรก็ได้ เพชรเทียมไม่จำเป็นต้องเป็นของสังเคราะห์ขึ้นอยู่เจตนาในการใช้งาน
เพชรเทียมหรือเพชรเลียนแบบ มีอะไรบ้าง
- ของธรรมชาติ ได้แก่ เพทายสีใส
- ของสังเคราะห์ ได้แก่ Y.A.G. G.G.G. STRONTIUM TITANATE คิวบิคเซอร์โคเนีย รวมถึง แก้วใสด้วย
แต่เพชรเลียนแบบที่ดีที่สุด (หมายถึง เหมือนมากที่สุด) ก็คือ คิวบิคเซอร์โคเนีย หรือที่รู้จักกันในนาม เพชรเลี้ยงหรือเพชรรัสเซีย (หรือที่หลายๆ คนรู้จักในนาม เพชรเขาพระงาม)
วิธีแยกเพชรแท้กับเพชรเลียนแบบ
วิธีที่ 1 ดูด้วยตาเปล่า ต้องพิศอย่างพิถีพิถันให้สังเกตเหลี่ยมมุมของเพชร ฝึกดูบ่อยๆ จะเห็นความแตกต่างได้ว่าเหลี่ยมมุมของเพชรจะเรียบ คม ชัดกว่าเพชรเลียนแบบมากเพราะเพชรมีความแข็งเป็นเลิศ เพราะฉะนั้นเหลี่ยมมุมที่เจียระไนจะคมกว่าพลอยอื่นซึ่งมึความแข็งน้อยกว่า
วิธีที่ 2 ใช้ได้เฉพาะดูเพชรรูปกลมเหลี่ยมเกสร ที่เป็นเม็ดๆ ไม่อยู่ในตัวเรือน ที่สำคัญต้องได้สัดส่วนที่ดีด้วย วิธีนี้เรียกว่า วิธีมองทะลุ (Read Through Test)
วิธีการง่ายๆ คือ วางเพชร หรือเพชรเลียนแบบที่ต้องการทดสอบบนเส้นตรงหรือตัวหนังสือสีดำ แล้วมองผ่านจากด้านบนของเพชร (เพชรจะไม่สามารถมองทะลุได้ ในขณะที่เพชรเลียนแบบส่วนใหญ่จะมองทะลุได้ หมายถึงมองเห็นเส้นดำข้างใต้)
วิธีที่ 3 ใช้น้ำยา Methelyne Iodide หรือ น้ำยาสำหรับหาความถ่วงจำเพาะของพลอย ปกติน้ำยานี้มีความถ่วงจำเพาะเท่ากับ 3.32 เพชรมีความถ่วงจำเพาะ 3.52 ส่วนเพชรเลียนแบบอื่นๆ มีความถ่วงจำเพาะหนักกว่าเพชรทั้งหมด (เกิน 4) เมื่อนำเพชร หรือเพชรเลียนแบบนั้นมาจุ่มน้ำยาเพื่อหาค่าความถ่วงจำเพาะ เพชรจะค่อยๆ จมลงในน้ำยา ในขณะที่เพชรเลียนแบบจะจมลงอย่างรวดเร็ว เทียบกับทับทิมก็ได้ ทับทับจะมีความถ่วงจำเพาะเท่ากับ 4 ดังนั้น เพชรจะจมช้ากว่าทับทิม ในขณะที่เพชรเลียนแบบจะจมเร็วกว่าทับทิม
วิธีที่ 4 วิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้เครื่องมือจี้เพชร (เครื่องนี้บางทีเรียกกันว่า Presidium) ซึ่งตรวจได้ทั้งเพชรที่อยู่ในตัวเรือนและเพชรร่วง เครื่องมือนี้ใช้หลักการนำความร้อน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Thermal Conductivity เพราะเพชรเป็นสารที่นำความร้อนได้ดีกว่าพลอยชนิดอื่นที่นำมาเลียนแบบจึงนำเครื่องนี้มาใช้แยกเพชรได้
วิธีการ เพียงแค่ใช้ปลายเข็มทองแดงจี้กดลงบนหน้าเพชร กระแสไฟฟ้าจะผ่านจากปลายเข็มไปที่เพชร ถ้าเป็นเพชรจริงเข็มวัดจะเคลื่อนไปที่ส่วนของ Diamond แต่ถ้าเป็นเพชรปลอมเข็มจะเคลื่อนที่ไปไม่ถึง
|