อิวาน ชิโดเรนโก้ (Ivan Sidorenko) 500 ศพ
หมวด เนื้อหาทั้งหมด
มอสโก
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
โปรแกรมทัวร์
ความรู้เกี่ยวกับสหพันธรัฐรัสเซีย
สถานทูตไทย ในต่างประเทศ
วลาดิเมียร์
ซูซดาล
ซากอร์ส
แผนที่และเส้นทางการท่องเที่ยว
เวลาและอุณหภูมิโลก
ของฝากจารัสเซีย
หนังสือเดินทาง ชนิดต่างๆ
ที่สุดของรัสเซีย
บุคคลสำคัญที่ควรรู้จัก
รวมภาพ ในแต่ละทริป
คุยกับ เว็บมาสเตอร์
16 ซาร์แห่งราชวงศ์โรมานอฟ
เที่ยวบินไปประเทศรัสเซีย
Webcam
การเดินทางสู่กรุงมอสโก
ราชนิกุลรัสเซียที่ควรรู้จัก
ไปรัสเซียต้องระวัง
ภาษารัสเซีย ???????
Golden Ring Cities
Russian Clips
ราชตระกูล จักรพงษ์
Russian TV
เอกอัครราชทูต
การก่อการร้ายในรัสเซีย
ไซบีเรีย
รัสเซีย : สงครามต่างๆ
พลซุ่มยิงของโซเวียต (รัสเซีย)
มรดกโลกของ รัสเซีย
มาเฟียรัสเซีย
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ
รักร่วมเพศ ในรัสเซีย
คิง ไกเซอร์ ซาร์
เขี้ยว เล็บ รัสเซีย
อวกาศกับรัสเซีย
12 ประเทศในเครือรัฐเอกราช
วอดก้ารัสเซีย
เขตปกครองของรัสเซีย
เพชรรัสเซีย
เสด็จเยือนรัสเซีย
คาเวียร์
เครื่องดนตรีรัสเซีย
น้ำดื่ม (วาดะ)
ศิลปินรัสเซีย
Trans-siberian railway
ze
8
ภาพเว็บมาสเตอร์
เว็บมาสเตอร์ บ่น
ตามใจ ไปหลวงพระบาง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เว็บไซต์นี้จะมีประโยชน์.. ไม่มากก็น้อย ขอบคุณครับ
เนิ้อหานี้อยู่ในหมวด :
พลซุ่มยิงของโซเวียต (รัสเซีย)
อิวาน ชิโดเรนโก้ (Ivan Sidorenko) 500 ศพ
อิวาน มิคาลโลวิช ชิโดเรนโก้(Ivan Mikhaylovich Sidorenko) เกิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ.1919 ณ.เมืองสโมเลนสค์(Smolensk) ในสหภาพโซเวียต(ประเทศรัสเซียในปัจจุบัน) ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อกองทัพนาซีเข้ามาเหยียบย่ำแผ่นดินแม่รัสเซีย ขณะนั้นชิโดเรนโก้มียศเป็นนายทหารอยู่ในกองทัพแดง และจากการปฏิบัติการของเขาทำให้ชิโดเรนโก้ได้กลายเป็นหนึ่งในสุดยอดพลซุ่มยิงของสหภาพโซเวียตในระหว่างสงคราม และมียอดสังหารชีวิตข้าศึกซึ่งได้รับการยืนยันแล้วกว่า 500 ศพ
ชิโดเรนโก้เกิดมาในครอบครัวของชาวชนบท โดยชิโดเรนโก้มีผลการเรียนเป็นอันดับสิบของโรงเรียน และต่อมาเขาได้เข้าเรียนในวิทยาลัยศิลปะเพนซา (Penza Art College) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเพนซา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโคว์ แต่พอถึงปีค.ศ.1939 ชิโดเรนโก้ก็ต้องออกจากวิทยาลัยศิลปะ เพราะโดนหมายเรียกเกณฑ์ทหารให้เข้าไปเป็นทหารเกณฑ์อยู่ในกองทัพแดง ชิโดเรนโก้ได้ถูกฝึกเป็นทหารอยู่ที่โรงเรียนฝึกสอนทหารราบซิมเฟโรพอล (Simferopol Military Infantry School) ในแคว้นไครเมีย (Crimea)
ในปีค.ศ.1941 ชิโดเรนโก้ได้มีโอกาสเข้าร่วมรบในการรบแห่งมอสโคว์(Battle of Moscow) ซึ่งในขณะนั้นชิโดเรนโก้มียศเป็น เรือโท (Junior Lieutenant) ในกองร้อยปืนครก (mortar company) ในระหว่างการรบนั้นชิโดเรนโก้มักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนตัวเองในการซุ่มยิงข้าศึก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะชิโดเรนโก้ประสบความสำเร็จในการล่าทหารเยอรมันเป็นอย่างยิ่ง ต่อมาผู้บังคับบัญชาของชิโดเรนโก้ ก็ได้มีคำสั่งฟ้าผ่าให้เขาไปรับการฝึกฝนเพื่อเป็นพลซุ่มยิงแทน
สิ่งแรกๆที่ชิโดเรนโก้ได้รับการฝึกก็คือ การทดสอบคัดเลือกผู้ที่จะมาเป็นสไนเปอร์นั้นเอง โดยเริ่มตั้งแต่การวัดสายตา(eyesight) ความรู้เกี่ยวกับอาวุธชนิดต่างๆ(weapons knowledge) และที่สำคัญที่สุดคือความอดทน(endurance) โดยเริ่มแรกนั้นชิโดเรนโก้ได้รับหน้าที่ให้ทำการสอนหลักการซุ่มยิงต่างๆ และกว่าจะได้เข้าสู่ภารกิจจริงก็นานมาก จึงทำให้ชิโดเรนโก้และลูกน้องของเขารู้สึกถึงภัยคุกคามของพวกเจอรี่ (เยอรมัน)
ต่อมาชิโดเรนโก้จึงได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการ(assistant commander) แห่งศูนย์บัญชาการกรมทหารปืนยาวที่ 1122 (Headquarters of the 1122nd Rifle Regiment) และเขาก็ได้เข้าร่วมรบอยู่ใน แนวหน้าบอลติกที่1 (1st Baltic Front) ถึงแม้ว่าหน้าที่โดยหลักของชิโดเรนโก้คือการสอน แต่เมื่อมีโอกาสในสนามรบชิโดเรนโก้มักจะให้ผู้ที่เขาสั่งสอน (trainees) หนึ่งคนติดตามเขาไปด้วย ซึ่งหนึ่งในการไปท่องเที่ยวหาอันตรายกับพวกเจอรี่ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ชิโดเรนโก้สามารถทำลายรถถังเยอรมันได้หนึ่งคัน และรถแทร็กเตอร์อีกสามคัน ด้วยกระสุนเจาะเกราะเพลิง (incendiary bullets) และก็เพราะการเที่ยวเล่นกับความตายของเขานี่แหละ ที่ทำให้ชิโดเรนโก้ต้องได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง แต่ก็ไม่ถึงฆาตซะที ซึ่งครั้งที่สาหัสที่สุดนั้นคือที่เอสโตเนียในปีค.ศ. 1944 บาดแผลในครั้งนี้ทำให้เขาต้องใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดไปกับการรักษาตัวจนสงครามสิ้นสุดลง
และในระหว่างที่พักฟื้นอยู่นั้น ในวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ.1944 ชิโดเรนโก้ก็ได้รับการประกาศให้เป็นวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต (Hero of the Soviet Union) และตั้งแต่นั้นชิโดเรนโก้ก็ถูกเบื้องบนสั่งห้ามไม่ให้เข้าสู่สนามรบอีก แต่เขาก็ได้เป็นผู้ฝึกสอนพลสไนเปอร์รุ่นต่อไปของสหภาพโซเวียต และเมื่อสิ้นสุดสงครามชิโดเรนโก้ก็ได้รับเครดิตยืนยันว่าเขามียอดสังหารทหารข้าศึกถึงห้าร้อยศพ และยังเป็นผู้ฝึกสอนให้กับทหารมากกว่าสองร้อยคน และพลสไนเปอร์อีกกว่าห้าสิบคน ยศสุดท้ายที่ชิโดเรนโก้ได้รับคือยศพันตรี(Major) นับว่าเขาเป็นพลซุ่มยิงของสหภาพโซเวียตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยใช้อาวุธคือปืนซุ่มยิงโมซิน-นากังค์(Mosin-Nagant rifle) ติดศูนย์กล้องเล็ง(telescopic sight) ชิโดเรนโก้จึงเป็นสไนเปอร์ที่มีความสามารถพิเศษกว่าพลซุ่มยิงโซเวียตคนอื่นๆทั้งหมด เพราะเขาเป็นสไนเปอร์ที่ใช้ปืนซุ่มยิงติดกล้องเล็งสังหารศัตรูได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงกันข้ามกับพลซุ่มยิงชาวฟินแลนด์ ซิโม ฮายฮา เพราะซิโมไม่ได้ใช้กล้องเล็งจะใช้ก็แค่ศูนย์เล็งเหล็กเดิมของปืนยาวเท่านั้น แต่ซิโมก็สังหารข้าศึกได้มากกว่าชิโดเรนโก้ไปหน่อยคือ 524 ศพ จึงทำให้ซิโมได้อันดับหนึ่งไป
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ชิโดเรนโก้ก็ได้ปลดประจำการออกจากกองทัพแดง และได้ย้ายไปอยู่ที่หน่วยงานบริหารของสหภาพโซเวียตในแคว้นเชเลียบินสค์(Chelyabinsk Oblast) ซึ่งตั้งอยู่ในเทือกเขายูราล(Ural Mountains) โดยชิโดเรนโก้ทำงานเป็นหัวหน้าคนงาน(foreman)ในเหมืองแร่(coal mine) พอถึงปีค.ศ.1974 ชิโดเรนโก้ก็ได้ย้ายไปอยู่สาธารณรัฐดาเกสถาน(Republic of Dagestan) ซึ่งตั้งอยู่ในแถบคอเคซัส (Caucasus) จนกระทั่งเสียชีวิต
ข้อมูลจาก
http://www.tanarmy.com/index/sniper/ww2/Ivan%20Sidorenko.html
ส่งหน้านี้ให้เพื่อน
02-05-2011
Views : 5030
หมวด
พลซุ่มยิงของโซเวียต (รัสเซีย) : 14 หัวข้อ
02-05-2011
มาเรีย ลจาลโคว่า (Marie Ljalkova)
02-05-2011
พลซุ่มยิง (sniper)
02-05-2011
อิวาน ชิโดเรนโก้ (Ivan Sidorenko) 500 ศพ
02-05-2011
ฟีโอดอร์ โอคโลฟคอฟ (Okhlopkov Fyodor) 429 ศพ
02-05-2011
ปาฟลิเชนโก ลิอุดมิลา (Pavlichenko Lyudmila) 309 ศพ
02-05-2011
นีน่า โลฟโคฟสกายา (Nina Lobkovskaya) 308 ศพ
03-05-2011
โรซา ชานิน่า (Roza Shanina) 54 ศพ
03-05-2011
อลิยา โมลดากูโลวา (Aliya Moldagulova) 91 ศพ
03-05-2011
ลิดิัยา กูโดแวนเซวา (Lidiya Gudovanceva) 76 ศพ
03-05-2011
เยลิเซเวตา ไมโีรนอฟวา (Yelizaveta Mironova) 34 ศพ
03-05-2011
นาตาเลีย โคฟโชวา (Natalia Kovshova) และ มาเรีย โปลิวาโนวา (Maria Polivanova) 298 ศพ
04-05-2011
วาสสิลิ เซทเซฟ (Vassili Zaitsev) 225 ศพ
08-05-2011
พลซุ่มยิงของรัสเซีย (สงครามโลกครั้งที่ 2)
23-05-2011
ปืนซุ่มยิง ของรัสเซีย (สมัยสงคราโลกครั้งที่ 2)
๏ปฟ
เวลาท้องถิ่น
กรุงเทพฯ
มอสโก
ลอนดอน
โรม
ฮ่องกง
โตเกียว
ซิดนีย์
ฟิจิ
ฮาวาย
ซานฟรานซิสโก
นิวยอร์ค
3.239.3.196 = UNITED STATES Wednesday 16th October 2024
ส่งหน้านี้ให้เพื่อน
น่าสนใจก่อนไปรัสเซีย
-
พระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 มหาราช
-
ค้นหาคำสาปแห่งราชวงศ์โรมานอฟ
-
พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
-
ราชวงค์โรมานอฟ
-
จักรพรรดินี แคทเธอรีนที่ 2 มหาราช
-
พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยือนรัสเซีย
-
ความสัมพันธ์ไทย - รัสเซีย
อยากให้อ่าน
-
กรุงมอสโก
-
นครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
-
เมืองเขตโกล์เด้นริง
-
รถไฟทรานส์ไซบีเรีย
-
เมืองวลาดิเมียร์
-
เมืองซากอร์ส
-
ตุ๊กตาแม่ลูกดก
ชอบอ่านกันมาก
-
สถาปัตยกรรมของรัสเซีย ที่เราควรรู้จัก
-
ชิ้นส่วนอวัยวะเพศของรัสปูติน
-
แฟเบร์เช่ (Faberge) งานศิลป์ สุดอลังการ
-
รายพระนามสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งรัสเซีย
-
จักรพรรดินีนาถแคทเธอรีนที่ 2 มหาราช
-
Trans-Siberian Railway
-
วิหารภายในพระราชวังเครมลิน
เรื่องน่ารู้
-
ว้อดก้ารัสเซีย
-
เพชรรัสเซีย
-
รัสเซียนออร์โทดอกซ์ ที่กรุงเทพฯ
-
ดู RT TV online (eng)
-
ปีเตอร์ คาร์ล ฟาแบร์เช
-
เชชเนีย
-
ชาวเกย์ที่รัสเซีย
มิตรภาพสองแผ่นดิน
-
สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน
-
พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จเยือนรัสเซีย
-
เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนารถ
-
พระพี่นางเสด็จเยือนรัสเซีย
-
สมเด็จพระเทพ เสด็จเยือนรัสเซีย
-
สมเด็จพระราชินี เสด็จเยือนรัสเซีย
-
เจ้าฟ้าหญิงเสด็จเยือนรัสเซีย
เครือรัฐเอกราช 12 ประเทศ
อาร์เมเนีย (Armenia)
พศ. 2534
อาร์เซอร์ไบจาน (Azerbaijan)
พศ. 2536
เบลารุส (Belarus)
พศ. 2534
จอร์เจีย (Georgia)
พศ. 2536-2551
คาซัคสถาน (Kazakhstan)
พศ. 2534
คีร์กิซสถาน (Kyrgyzstan)
พศ. 2534
มอลโดวา (Moldova)
พศ. 2534
รัสเซีย (Russia)
พศ. 2534
ทาจิกิสถาน (Tajikistan)
พศ. 2534
เติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan)
พศ. 2548
ยูเครน (Ukraine)
พศ. 2534
อุซเบกิสถาน (Uzbekistan)
พศ. 2534
อาร์ตนานา สตูดิโอ และ เดอะ ไดโนเสาร์ อาร์ต แกลเลอรี่
บ้านเลขที่ 9, 48 หมู่ 12 บ้านหนองซำ ต.น้ำอ้อม อ.ค้อวัง จ.ยโสธร 35160
https://www.artnana.com