ยอดสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงมอสโก

Highlight :

1. พระราชวังเครมลิน (Kremlin)

พระราชวังเครมลิน เป็นสัญญลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงมอสโกและรัสเซีย เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์และของประธานาธิบดีของรัสเซีย พระราชวังเคลมรินเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องอนุรักษ์ไว้ของ UNESCO เพื่อเป็นสมบัติของโลก อีกเหตุผลหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเดินทางมากรุงมอสโกก็เพราะว่าต้องการมาชื่นชมพระราชวังเครมลินนั่นเอง พระราชวังเครมลินเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับกรุงมอสโก ดังนั้นจึงเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวรัสเซีย สมัยพระเจ้าอีวานที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ดำริให้นำอิฐแดงมาก่อเป็นผนังของกำแพงและหอคอยของพระราชวังเครมลิน เสร็จสิ้นศรรตวรรษที่ 15 พระเจ้าอีวานที่ 3 ได้รับการขนานพระนามว่า มหาราช เพราะเป็นวางรากฐานขนบทำเนียมและกฎระเบียบต่างๆ ให้ประเทศรัสเซีย ภายในพระราชวังเครมลินมีสถานที่ท่องเที่ยวคือ โบสถ์อัสสัมชัญ หอระฆังพระเจ้าอีวานที่ 3 ซึ่งเป็นหอระฆังที่สูงที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น โบสถ์ Annunciation ซึ่งเป็นที่จัดงานพระราชพิธีต่างๆ ของพระเจ้าซาร์, ระฆังยักษ์, ปืนใหญ่, พิพิธภัณฑ์อาร์มรี่ แซมเบอร์, พิพิธภัณฑ์พระคลังเพชร, ที่ทำการประธานาธิบดี, และหอคอยต่างๆ รอบกำแพงเครมลิน

2. พิพิธภัณฑ์ อาร์มรี่ แซมเบอร์ (Kremlin Armoury Chamber )

ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเครมริน เป็นหนึ่งในพิพิภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของรัสเซีย ภายในจัดแสดงเครื่องทรง ราชรถ ราชบริภัณฑ์มากมายของพระเจ้าซาร์ โดยแบ่งออกเป็นชั้นๆ เป็นระเบียบเรียบร้อย เราจะได้เห็นความอลังการของเครื่องทรง มงกุฏ บัลลังค์ และเครื่องใช้ต่างๆ มากมายซึ่งมีความปราณีตเป็นอย่างมาก

3. พิพิธภัณฑ์พระคลังเพชร (State Diamond Fund )

ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเครมลิน ภายในรวบรวมเพชรและอัญมณีอันล้ำค่าของราชวงศ์โรมานอฟ จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน เช่น พระมงกุฏของพระนางแคทเธอรีน ตั้งแต่ ศรรตวรรษที่ 18-19 โครตเพชรโอลอฟ, คทาเพชร, มงกุฏเพชร, พระแสงเพชร, สร้อยพระศอเพชรและเพชรอันล้ำค่าต่างๆ ของโลก ที่ราชวงศ์โรมานอฟทรงสะสมไว้ พิพิธภัณฑ์พระคลังเพชรเป็นส่วนหนึ่งของมรดกแห่งชาติของรัสเซีย http://almazi.net

4. จตุรัสแดง (Red Square)

เป็นการผสมผสานที่ดียิ่ง ระหว่างพระราชวังเครมลินและจตุรัสแดง ซึ่งจะขาดอย่างหนึ่งอย่างไดไปไม่ได้ พระราชวังเครมลินและจตุรัสแดงเป็นศูนย์กลางของกรุงมอสโก เป็นเสมือนหนึ่งสัญลักษณ์ของรัสเซียก็ว่าได้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอีวานที่ 3 (มหาราช) ศรรตวรรษที่ 18-19 เป็นสถานที่ที่จัดงานแสดงใหญ่ๆ และการชุมนุมต่างๆ คำว่า "แดง" มีรากศัพท์มาจากภาษาโบราณของชาวสลาฟว่า "krasny" ซึ่งไม่ได้หมายถึงสี แต่หมายถึง ความสวยงาม และการรื่นเริง (Beautiful, Gala) สถานที่น่าแวะชมที่อยู่บริเวณจตุรัสแดง คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติรัสเซีย, สุสานเลนิน, ห้างสรรพสินค้ากูม, วิหารเซ็นต์บาซิล, พระราชวังเครมลิน สามารถเดินถึงกันได้ไม่ไกลมากนัก

5. วิหารเซ็นบาซิล (St. Basil's Cathedral - ซาร์โบ วาซิเลีย บาเซนนาวา)

สถาปัตยกรรมอันล้ำค่าแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอีวานที่ 4 (มหาราช, อีวานผู้โหดเหี้ยม) ศรรตวรรษที่ 16 สร้างตามพระประสงค์ของพระองค์ เพื่อเป็นการฉลองชัยที่ทรงรบชนะพวกตาตาร์ในอัสตราคานและคาซาน เมื่อสร้างเสร็จปูนบำเหน็จให้กับผู้ออกแบบโดยการควักลูกตาทั้ง 2 ข้างออก จะได้ไม่ไปออกแบบวิหารที่ไดอีก ให้มีที่นี่ที่เดียวที่สวยที่สุด มหาวิหารเซ็นต์บาซิลตั้งอยู่ที่จตุรัสแดง มีหลังคาสูงยอดแหลม มีโดมหัวหอม 9 โดม มีสีสันสดใสสวยงาม มีขนาดเล็กใหญ่ลดหลั่นกันไป ไม่มีที่ไดเหมือน มีที่เดียวในโลก ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของกรุงมอสโกเลยก็ว่าได้ ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์รูปปั้น 2 นักรบผู้กล้า คอสมา มินิน และเจ้าชายดมิทริ โปซาร์สกี้ ผู้นำกองทัพรัสเซียต่อต้ายพวกโปล เมื่อปี ค.ศ. 1612

6. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติรัสเซีย (the State Historical Museum - โกซูดาร์สตเวนนึย อิสโตรีเชสกี มูเซย์)

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติรัสเซียอยู่บริเวณจตุรัสแดงเยื้องๆ กับสุสานเลนิน ภายในแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ สมัยโบราณยุคมัสโกวี เคียฟ เป็นต้น อาคารพิพิธภัณฑ์ก่อสร้างในศตวรรษที่ 19 โดยสถาปนิกผู้มีชื่อเสียงมากมายของรัสเซีย ตกแต่งอย่าสวยงามอลังการ มีงานแสดงกว่า 4.5 ล้านชิ้น มีหนังสือเอกสารเล่าความเป็นมาและวัฒนธรรมจากอดีดีตจนถึงปัจจุบันของรัสเซียกว่า 15 ล้านชิ้น เอกสารโบราณมีอายุกว่า 5000 ปี

7. สุสาน เลนิน (Lenin Mausoleum -- มัฟโซเลย์ เลนีน่า)

สุสานเลนิน ตั้งอยู่ระหว่างหอคอยนิโคลสกายาและหอคอยเซนัตสกายา ออกแบบโดยชูเซฟ ปี ค.ศ. 1930 ภายในมีโลงแก้วบรรจุร่างอาบน้ำยาของเลนิน ไว้ให้ชาวรัสเซียและนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน อนึ่ง บริเวณระหว่าง 2 หอคอยนี้ ใช้เป็นที่ฝังศพของรัฐษุรุษ ผู้นำทางทหาร และบุคคลสำคัญอื่นๆ ของโซเวียต เช่น มัคซิม กอร์กี้, นาเดชดา ครุปสกายา ภริยาเลนิน, นักบินอวกาศยูริ กาการิน เป็นต้น

8. ถนนอาร์บัด เก่า/ใหม่ (Arbat - อาร์ บัด)

มนต์เสน่ห์บนถนนเส้นเก่าแก่ ถนนอาราบัดแห่งนี้จะมีของซื้อของขายมากมาย ของฝาก งานศิลปะ ผลไม้สด ปลาแห้ง และอีกมากมาย ถนนอาราบัดเป็นส่วนหนึ่งที่ขึ้นชื่อของกรุงมอสโก หากไปมอสโกแล้วไม่ได้แวะเดินเที่ยวก็น่าเสียดายมาก

9. วิหารเซ็นต์ เดอ ซาร์เวีย (Cathedral of Christ the Saviour - ฮรัม ฮริสตา สปาซีเตลยา)

วิหารนี้เป็นวิหารที่สำคัญมากของนิกายรัสเซียนออโทดอกซ์ ใช้ประกอบพิธีกรรมใหญ่ๆ ระดับชาติ สร้างเพื่อรำลึกถึงพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ผู้ซึ่งสามารถขับไล่กองทัพนโปเลียนไปได้ สร้างโดยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 และพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 และมาเสร็จสิ้นในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (45 ปี) ภายในตกแต่สวยงามจากสถาปนิกเลื่องชื่อมากมาย ในปี ค.ศ. 1931 สตาลินได้สั่งให้ทุบทิ้งเพื่อสร้างเป็นสระว่ายน้ำ แต่ในปี ค.ศ.1990 ประชาชนชาวรัสเซียช่วยกันบริจาครวบรวมเงินกันเพื่อที่จะสร้างขึ้นใหม่ ใช้เป็นที่พำนักของสังฆราช Alexey II (นิกายรัสเซียนออโทดอกซ์)

10. อารามโนโวดิวิชี (Novodevichy Convent - โนโวเดวิชี โมนัสตรึยร์)

สำนักชีเก่าแก่แห่งนี้ มีประวัติที่น่าสะพรึงกลัวมากมาย เล่ากันว่านี้คือคุกหรือที่คุมขังสตรีชั้นสูง ใครก็แล้วแต่ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้าซาร์ แม้กระทั่งพระนางโซเฟียพระภคินีของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ล้วนประสบชะตากรรมจับโกนหัวบวชชีจองจำจนสิ้นพระชนต์ที่อารามแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16-19 และเป็นงานชิ้นเยี่ยมของสถาปัตยกรรมบาโรก(Baroque)ในยุคนั้น เป็นแหล่งรวมศิลปะและความรู้เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับแม่ชีในยุคต่างๆ ของรัสเซีย เป็นที่พำนักของแม่ชีผู้เคร่งเครัดปฏบัติธรรม

11. มหาวิทยาลัยมอสโก (Moscow State University )

ตึกมหาวิทยาลัยมอสโก(MSU) เป็น 1 ในตึก 7 พี่น้อง (the Seven Sisters) สูงเสียดฟ้าสร้างสมัยสตาลิน สร้างในปี ค.ศ. 1755 โดย Empress Elizaveta Petrovna หรือภายหลังเรียกง่ายว่า Lomonozov เป็นสถาบันที่ผลิตนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ด้านหน้า MSU ซึ่งเป็นเนินเขาสูง จะมีจุดชมวิวเรียกว่า Sparrow Hills สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของกรุงมอสโกได้ทั้งหมด อีกทั้งยังมีของที่ระลึกมากมายโดยเฉพาะตุ้กตาแม่ลูกดกให้เราเลือกซื้อฝากเพื่อนๆ ได้อีกด้วยราคาไม่แพงต่อรองราคาได้

12. พิพิธภัณฑ์ศิลปะเตร็ตยาคอฟ (State Tretyakov Art Gallery )

เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะของรัสเซีย ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ชื่อของพิพิธภัณฑ์นำมาจากชื่อของนักธุรกิจ นามว่า Pavel Mikhailovich Tretyakov (1832-1898) ซึงเป็นผู้บริจาคงานศิลปะรัสเซียซึ่งเขาได้สะสมไว้ 2000 ชิ้น ปลายศตวรรษที่ 19 ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ ได้ออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมนีโอ-รัสเซีย (Neo-Russian Style) ออกแบบศิลปินรัสเซียผู้มีชื่อเสียงนามว่า Viktor Visnetov ภายในมีงานศิลปะแสดงกว่า 100,000 ชิ้น วัตถุโบราณของรัสเซียกว่า 5,000 ชิ้น รวมทั้งงานจากศิลปินที่มีชื่อเสียงของรัสเซีย เช่น Ivannov, Bryulov, Serov, Repin เป็นต้น ด้านอกพิพิธภัณฑ์ ริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ในสวนจะมีอนุสาวรีย์ Fallen Monuments รวบรวมจากจตุรัส Lubyanka หน้าตึกที่ทำการใหญ่ของเคจีบี ตำรวจลับของรัสเซียในปี พ.ศ. 2534 ที่น่าสนใจคือ รูปปั้นขนาดยักษ์ของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ฝีมือของ Zurab Tsereteli สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2540 www.tretyakov.ru เปิด 10.00-19.30 น. ปิดทุกวันจันทร์

13. บ้านศูนย์กลางศิลปินและพิพิธภัณฑ์เตร็ตยาคอฟใหม่ (Central House of Artists and the new Tretyakov Gallery)

เป็นศูนย์รวมของศิลปินรัสเซียที่มีขนาดใหญ่มาก มีงานศิลปะสัมยใหม่แสดงให้ดู ไม่ว่าจะเป็นงานใต้ดิน งานความคิดในหลายๆ ด้านให้ได้ดูชม เป็นสถานที่ๆ ทำไว้เพื่อศิลปินรัสเซียคลื่นลูกใหม่โดยเฉพาะ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเตร็ทยาคอฟ

14. พิพิธภัณฑ์ศิลปะปุ้ชกิน (Puskin Museum of Fine Art )

หลายๆ คนเข้าใจผิดว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะของกวีเอก อเล็กซานเดอร์ ปุชกิ้น จริงๆ แล้ว (ตั้งชื่อเพื่อให้เป็นเกียรติแก่ ของกวีเอกอเล็กซานเดอร์ ปุชกิ้น ) ผู้ก่อตั้ง คือ professor Ivan Tsvetaev ศาสตราจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์ศิลปะแห่งมหาลัยมอสโก พิพิธภัณฑ์ศิลปะปุชกิ้นเป็นศูนย์รวมผลงานศิลปะยุคอิมเพรสชั่นนิสต์ โพสต์-อิมเพรสชั่นนิสต์ และศิลปะสมัยใหม่ ที่โดดเด่นคือ ภาพเขียนในยุคแรกๆ ของศิลปิน ชื่อดัง เช่น Botticeli, Rembrandt, Rubens รวมทั้งโบราณวัตถุจากกรีก อียิปต์และอิตาลี ของสำคัญ คือ หน้ากากหลุมศพอียิปต์ ที่ Vladimir Golenishchev ได้มอบให้พิพิธภัณฑ์ เปิดเวลา 10.00 -18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์

15. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ อันเดร รูเบลฟ (Andrei Rublev Museum)

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมภาพวาดของศิลปินที่ยิ่งใหญ่ของรัสเซีย อันเดร รูเบลฟ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพวาดไอคอน (ภาพวาดทางศาสนา, ภาพบูชา, ภาพศักสิทธิ์ นิกายรัสเซียนออโธดอกซ์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14-19) อันเดร รูเบลฟ เป็นพระหนุ่มชาวรัสเซีย ผลงานเริ่มปรากฏในปี ค.ศ. 1904 ภาพชื่อ holly Trinity (หอศิลป์เตร็ตติยาค็อฟ) ซึ่งเป็นภาพที่โด่งดังมาก วาดให้กับอารามทรินิตี-เซนต์เซร์จิอุส (ซาร์กอร์ส) เพื่อสดุดีนักบุญเซร์จิอุสแห่งราโดเนชผู้ก่อตั้ง เขาบวชเป็นพระอยู่ที่วัดนี้ ก่อนสึกออกมาป็นจิตรกรอาชีพในปี ค.ศ. 1422 เปิดบริการ 11:00 to 18:00 น. ปิดทุกวันพุธและวันศุกร์สุดท้ายของเดือน

16. พิพิธภัณฑ์การต่อสู้แห่งโบโรดิโน (Borodino Battle Panorama-Museum)

โบโรดิโน เป็นชื่อหมู่บ้านของรัสเซียซึ่งเป็นสนามรบระหว่างรัสเซียกับนโปเลียน ในปี ค.ศ. 1812 (สมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1962 เพื่อเป็นที่ระลึกวันครบรอบ 150 ปี ของการรบสมัยกองทัพฝรั่งเศสนำโดยนโปเลียนและรัสเซีย ซึ่งมีนายพลคูตูซอฟ เป็นนักรบผูกล้าหาญ มีภาพวาดพานอรามา แสดงถึงการสู้รบอย่างถึงพริกถึงขิง ยาว 115 เมตร สูง 15 เมตร ออกแบบและวาดโดย Franz Rubo และศิลปินชาวรัสเซีย ด้านหน้ามีรูป นายพลมิคาลอิล คูตูซอฟขี่ม้าศึก ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม ต้นปี ค.ศ. 1813 นายพลมิคาอิล คูตูซอฟได้ล้มป่วยลงและเสียชีวิต ในวันที่ 28 เมษายน 1813 ที่ Bunzlau (1745-1813) อนุสาวรีย์ที่เด่นๆ อีกที่หนึ่งคือ ที่โบสถ์คาซาน นครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก รายละเอียดสงครามบางส่วน (๑๘๑๒-๑๘๑๔) เป็นสงครามระหว่างฝรั่งเศส กับพันธมิตรที่มี สหราชอาณาจักร, รัสเซีย, ปรัสเซีย, ออสเตรีย และรัฐเยอรมันจํานวนหนึ่ง ปี ๑๘๑๒, นโปเลียนทําการบุกรัสเซียเพื่อบีบบังคับให้จักรพรรดิ อเล็กซานเดอร์ที่ ๑ ทรงยินยอมนําประเทศเข้าร่วมในกลุ่มภาคพื้นทวีป (Continental System) ที่ฝรั่งเศสเป็นแกนนําตั้งขึ้นมาและเพื่อบีบบังคับให้รัสเซียยุติการยึดครองโปแลนด์ กองทัพร่วมฝรั่งเศสและพันธมิตรที่เรียกว่า Grande Armee รวม ๖๕๐,๐๐๐ คน (เป็นฝรั่งเศส ๒๗๐,๐๐๐ คน ที่เหลือเป็นทหารชาติพันธมิตร) รุกข้ามแม่น้ำนีเมน (Niemen River) ในวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๑๘๑๒ รัสเซียประกาศว่า การกระทําครั้งนี้เป็นการรุกราน (a Patriotic War) ในขณะที่ฝรั่งเศสประกาศว่า เป็นสงครามโปแลนด์ครั้งที่ ๒ (a Second Polish war) ทั้งนี้ฝรั่งเศสหวังว่า จะได้ทหารจากโปแลนด์มาเข้าร่วมด้วย ๑๐๐,๐๐๐ คน โดยนโปเลียนไม่สนใจกับข้อเสนอของโปแลนด์ที่เสนอให้เปิดการเจรจากับรัสเซีย รัสเซียรบโดยใช้ยุทธวิธีร่นถอย, ทําลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจเป็นประโยชน์ต่อศัตรู และไปตั้งรับที่โบโรดิโน (Battle of Borodino, วันที่ ๗ กันยายน) การรบเป็นไปอย่างดุเดือด ฝรั่งเศสผลักดันกองทัพรัสเซียให้ถอยและเข้ายึดมอสโคว์ได้ในวันที่ ๑๔ กันยายน รัสเซียทิ้งเมือง, เจ้าชาย ราซอทชิน (Prince Rasotpchin) ผู้ว่าการมอสโคว์สั่งให้เผาทุกอย่างที่อาจเป็นประโยชน์ต่อข้าศึก ทําให้นโปเลียนไม้ได้อะไรจากการยึดมอสโคว์เลยนอกจากเถ้าถ่าน ฝรั่งเศสจึงถอนกําลังนี่คือจุดเริ่มต้นของการถอนกําลังครั้งใหญ่ (Great Retreat) ซึ่งนําความหายนะมาสู่กองทัพฝรั่งเศส ทําให้ทหารเสียชีวิตไปถึง ๓๗๐,๐๐๐ คน และถูกจับเป็นเชลยอีก ๒๐๐,๐๐๐ คน จนถึงเดือนพฤศจิกายน คงเหลือทหารที่ยังแข็งแรงอยู่เพียง ๒๗,๐๐๐ คน เท่านั้นที่ข้ามแม่น้ำเบเรซีน่า (Berezina River) นโปเลียนจากกองทัพของเขาเข็าสู่ปารีส และเตรียมการป้องกันโปแลนด์จากการไล่ติดตามของกองทัพรัสเซีย สถานการณ์ของฝ่ายรัสเซียเองก็ไม่ดีไปกว่าฝรั่งเศสนัก รัสเซียเสียทหารไปราว ๔๐๐,๐๐๐ คน แต่ได้เปรียบตรงที่สายการส่งกําลังบํารุงใกล้กว่าฝรั่งเศส และยังเสริมกําลังพลได้เร็วกว่ามาก.......... เปิด วันเสาร์ - พฤหัสบดี 10.00 - 18.00 น., ปิดทุกวันศุกร์และวันพฤหัสบดีสุดท้ายของเดือน

17. พิพิธภัณฑ์พุชกิ้น (Puskin State Museum - ปุชกิ้นน่า มูเซ่ร์)

พิพิธภัณฑ์ของกวีเอกอเล็กซานเดอร์ พุชกิ้น ภายในตกแต่งสวยงามและจัดแสดงผลงานการประพันธ์ต่างๆ รวมทั้งภาพวาดภาพสะเก็ตของพุชกิ้น งานเขียนที่โด่งดังที่สุดคือ Eugene Onegin และ the Queen of Spades (กวีพุชกิ้นมีเชื้อสายอัฟริกัน) ตั้งอยู่ที่ Ulitsa Prechistenka 12/2, Moscow - เปิด 10.00-17.00 น. ปิดทุกวันอังคารและวันศุกร์สุดท้ายของเดือน

18. พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านโคโลเมนสโคว (Kolomenskoye Museum Estate)

เป็นหมู่บ้านที่สร้าง โดยพระเจ้าอีวานที่ 1 มีอาคารที่น่าชมอยู่ 2 แห่ง โบสถ์อัสสัมชัญ เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ โดดเด่นไม่เหมือนใครเพราะเป็นอาคารหลังแรกที่ทำด้วยหินทั้งหลัง และโบสถ์ Our Lady of Kazan เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรกสมัยแรก ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ชาวรัสเซียเชื่อว่ารูปเคารพ(ไอคอน) Our Lady of Kazan ศักดิ์สิทธิ์มาก ทำให้รบชนะและขับไล่พวกโปลออกจากมอสโกได้ เปิด 10.30-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์

19. พิพิธภัณฑ์วังคุสโคโว (Kuskovo Museum Estate )

สร้างโดยเคาต์ Pyotr Borissovich Sheremetev หลังจากแต่งงานกับทายาทหญิง Varvara Cherkaskaya ในปี พ.ศ. 2286 ออกแบบและก่อสร้างโดยสถาปนิก Fyodor Argunov, Alexsey Mironov, Karl Blank ใช้แรงงานถึง 200,000 คน ในการก่อสร้าง สิ่งที่ควรชม Wooden Palace, Grotto Room, Orangery Room, Formal Gardens สวยงามแปลกตากว่าที่ใดๆ ในรัสเซีย จนได้สมญานามว่า " แวย์ซายส์แห่งรัสเซีย "

20. อารามศักดิ์ศิทธิ์ดานิลอฟ (The Holy Danilov Monastery )

เป็นศูนย์กลางของความเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของมอสโกและใช้เป็นที่พำนักของพระราชาคณะนิกายรัสเซียนออร์โธดอกซ์ของรัสเซีย อีกทั้งยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ สร้างในปี ค.ศ. 1282 โยเจ้าชาย Daniil Moskovsky พระโอรสของ Alexander Nevsky เป็นสถานที่ๆ คนให้ความนับถือและศรัทธามากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก มีโบสถ์, หอระฆัง สถาปัตยกรรมแบบรัสเซียนออร์โธดอกซ์ รูปแบบคล้ายๆ ที่ เมืองซาร์กอส

21. รถไฟใต้ดินมอสโก (Moscow Metro - มอสคอฟสกี้ เมโตรโปริเตระ)

22. โรงละครบอลซอย (Bolshoi Theatre - บอลซู เทียตะ)

โรงละครบัลเลย์ หากไปรัสเซียแล้ว ควรจัดหาเวลาเข้าชมศิลปะการแสดงบัลเลย์ ซึ่งเป็นการแสดงชั้นสูงของรัสเซียในยุคแรกๆ เป็นการแสดงสำหรับกษัติย์และขุนนางเท่านั้น ภายในโรงละครมี 6 ชั้น โดยรอบ จุผู้คนได้ 2500 คน ชั้นสองขึ้นไปจะเป็นแนวโค้ง แบ่งเป็นห้องๆ แต่ละห้องมีที่นั่ง 10-12 ที่ ตรงด้านหน้าเวทีจะเป็นที่นั่งพิเศษสำหรับเจ้านาย ประดับประดาด้วยผ้าม่านกำมะหยี่สีแดงเข้ม เป็นเก้าอี้อย่างดี แตกต่างจากทุกตัวและยังเป็นจุดที่ชมการแสดงได้ชัดที่สุดด้วย เรื่องยอดนิยมที่แสดง คือ Swan Lake, Sleeping Beauty และ Spartacus (ห้ามถ่ายรูปถายในโรงละคร) www.bolshoi.ru

23. ละครสัตว์มอสโก (Moscow Circus )

" ท่วงท่า ลีลาที่อ่อนช้อย พริ้วไหว ของนักแสดงกายกรรม ที่ลอยอยู่กลางอากาศ ทุกจังหวะลีลาสอดประสานเสียงดนตรี นุ่มนวล สะกดคนดูให้นั่งนิ่งอยู่กับที่ เหล่าสัตว์เลี้ยงน้อยใหญ่ แสดงท่าทางผิดกับสัตว์ทั่วไปเพราะช่างแสนรู้ น่ารัก น่าเอ็นดู ยามเมื่อได้แสดงกับนักกายกรรม ก็พริ้วไหวประสานสอดคล้องกันไม่มีผิดพลาดเลย เหมือนหนึ่งเพื่อนซี้ที่รู้ใจกันมานาน คำกล่าวทั้งหมดนี้ ไม่ได้กล่าวเกินเลยจริงๆ มารัสเซียเที่ยวนี้คุ้มจริงๆ " ละครสัตว์รัสเซีย โด่งดังไปทั่วโลก เพราะการฝึกสัตว์ทั้งเล็กและใหญ่ให้แสดงในท่วงท่าต่างๆ ได้อย่างลงตัว อีกทั้งการแสดงร่วมกับนักกายกรรมก็ล้วนปราณีตในการวางท่วงท่า ที่ทั้งแข็งแรงและนุมนวล โรงละครสัตว์มีทั้งใหญ่และเล็กราคาแตกต่างกันไป เด็กๆ ส่วนมากจะชอบการแสดงโชว์เหล่านี้มาก สิ่งที่นิยมนำมาแสดงได้แก่ ชิงช้า นักกายกรรม การเล่นกล หมี สุนัข สิงโต ม้า แพะ แกะ เสียงบันเลงประกอบการละเล่น

24. สวนสัตว์มอสโก (Moscow Zoo - มอสคอฟสกี้ ซู-ระ-ปาร์ค)

สวนสัตว์มอสโก รวบรวมสัตว์ใกล้สูญพันธ์ต่างๆ ไว้มากมาย มีเด็กๆ และคนโตเข้าชมวันละมากกว่าพันคน มีพื้นที่รวม 20 เอเคอร์ มีสัตว์ประมาณ 960 สายพันธ์ และสัตว์/นกกว่า 5000 ตัว สวนสัตว์มอสโก มีสัตว์สายพันธ์ที่หายากมากมาย เช่น ม้าพันธ์หายาก กวาง หมี และเสือไซบีเรียหรือเสืออาร์เมอร์ ซึ่งแต่ก่อนเคยพบที่ จีน เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ แต่ปัจจุบันสูญพันธ์ไปแล้ว คงเหลือแต่ที่เขตไซบีเรียใกล้ๆ วลาดิวอสต็อคเท่านั้น อาร์เมอร์เป็นเสือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ยาวจากหัวจรดหางเกือบ 4 เมตร

25. ตลาดนัดอิสเมลอฟสกี้ (Izmailovsky Souvenir Market )

ตลาดอิสเมโลฟสกี้ ของรัสเซีย ที่ขายของจิปาถะมากมาย เสื้อผ้า อาหาร ของฝาก ชองชำร่วย อาทิ รองเท้า เสื้อหนาว นาฬิกา รูปวาด ไม้แกะสลัก ตุ้กตาแม่ลูกดก อัมพัน ผ้าพันคอ และอาหารเครื่องดื่มมากมาย ราคาต่างๆ สามารถต่อรองได้ เดินทางไม่กี่นาทีจาก Izmailovsky Park Metro รูปแบบซุ้มตลาดทำด้วยไม้ จัดวางเป็นซุ้มๆ แบ่งเป้นทางเดินสวยเป็นระเบียบ