การร่วมประเวณีกับญาติสนิท หรือ การสมสู่ร่วมสายโลหิต หมายถึง การมีความสัมพันธ์ทางเพศในทุกรูปแบบกับผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในครอบ ครัวเดียวกัน ซึ่งอาจหมายถึงคนในครอบครัว หรือญาติพี่น้อง ซึ่งถือว่าเป็นการผิดกฎหมายและจารีตทางสังคม
ในบางสังคม การล่วงละเมิดหมายอาจมีแค่ผู้ที่อยู่ร่วมเคหะสถานเดียวกัน หรือผู้ที่เป็นสมาชิกของเผ่าหรือมีผู้สืบสันดานเดียวกัน; ในบางสังคมมีความหมายรวมไปถึงคนที่สัมพันธ์กันทางสายเลือด; และในสังคมอื่น ๆ รวมไปถึงบุตรบุญธรรมหรือการแต่งงาน
การร่วมประเวณีระหว่างสายเลือดนั้นในประวัติศาสตร์พบว่าช้านานแล้ว โดยเฉพาะพวกคนชั้นสูง กษัตริย์และตระกูลขุนนางชั้นสูงนิยมการแต่งงานกันเองระหว่างเครือญาติเพื่อ ปกป้องสายเลือดอันบริสุทธิ์อีกทั้งยังรักษาทรัพย์สมบัติและอำนาจเอาไว้ ทำให้ผู้สืบสายเลือดตระกูลเหล่านี้หลายคนมีอาการบกพร่องทางจิตจากลักษณะทาง พันธุกรรม....
เป็นต้นว่า โรคประสาท, โรคเลือด, พิกลพิการ, เซ็กซ่วลที่ชอบสำเร็จความใคร่ตนเอง, โรคลมชัก,สมอง ทำให้คนชั้นสูงเหล่านั้น บ้า เช่น บุคคลดังๆ ที่เป็นโรคพันธุกรรมที่เกิดจากการร่วมประเพณีสายเลือดเดียวกัน ก็มี อลิซาเบธ บาโธรี่(Elizabeth Báthory)หญิงสาวที่ฆ่าคนถึง 650 คนโดยใช้อำนาจขุนนางมาใช้, พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 (Tsar Nicholas II)ที่ลูกป่วยเป็นป่วยเป็นโรคฮีโมฟีเลีย ได้รับการรักษาโดยรัสปูติน จนส่งผลให้รัสปูตินก้าวมามีอำนาจในพระราชสำนัก, สมเด็จพระราชินีฮวนน่า(Juana I de Castilla)ฮวนน่าผู้บ้าคลั่ง, อีวานที่ 4 (Ivan IV) ซาร์แห่งรัสเซีย ที่ปกครองรัสเซียอย่างโหดร้าย
นอกจากนี้ยังมีโรคประหลาดหนึ่งที่มาจากการร่วมประเวณีระหว่างสายเลือดเดียว กัน คือ โรคโพรพีเรีย (Porphyria) หรือโรคผีดูดเลือดที่โรคพันธุกรรมหายากมาก ซึ่งเกิดจากการจาดเอนไซม์ในตับหรือเม็ดเลือดแดงท ทำให้ต้องรักษาโดยการดื่มเลือด(สมัยก่อน) ตัวบุคคลที่เป็นโรคนี้ก็มี วลาด ดราคูล่า(Vlad the Impaler)จอมเสียบโรมาเนีย, สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์(Mary Queen of Scots), พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์(Nebuchadnezzar) และ พระเจ้าจอร์ชที่ 3(King George III) โดยมีหลักฐานคือพบสารหนูอยู่มากในพระเกศาที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ กรุงลอนดอน
|