ศพของรัสปูตินได้ทำพิธีฝัง ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1916 ในช่วงแรกมีผู้เสนอว่า จะนำศพกลับไปยังหมู่บ้านโปครอฟสกี้ในไซบีเรีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเขา
แต่โปรโตรโปป็อฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เกรงว่าอาจจะทำให้มีฝูงชนไปร่วมชมพิธีมากเกินไป จนอาจเกิดการจลาจลได้ ท่านผู้หญิงแอนนา
จึงได้แนะนำว่าควรฝังศพรัสปูตินไว้ตรงศูนยืกลางของโบสถ์ใหม่ซึ่งกำลังสร้างอยู่ในอุทยานซาร์สคูเย เซโล
ในวังหลวงดูจะเหมาะสมกว่า
กล่าวกันว่า ก่อนปิดฝาโลง ราชินีอเล็กซานดรา ทรงวางวัตถุสำคัญ 2 ชิ้นลงบนศพตรงระหว่างหน้าอก คือ พระบรมฉายาลักษณ์ขนาดเล็ก ซึ่ง
พระองค์และพระเจ้าซาร์ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย อีกสิ่งหนึ่ง คือ พระราชสาส์น ที่ระลึกและสรรเสริญคุณความดีของรัสปูติน ในอดีตที่ผ่านมา
โลงศพของรัสปูติน ฝังอยู่ในสุสานได้ไม่ถึง 3 เดือน ช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากการปฏิวัติในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1917 กลุ่มทหารขี้เมาได้ทำลายโบสถ์ที่
ยังสร้างไม่เสร็จ และได้ขุดหลุมฝังศพรัสปูติน ปรากฏว่าเมื่อเปิดฝาโลงออก พบว่าใบหน้าศพของรัสปูตินเป็นสีดำ และศพมีกลิ่นเหม็นประหลาด
พระบรมฉายาลักษณ์ของราชินีขนาดเล็กที่วางอยู่บนห่อศพถูกขโมยไป กล่าวว่ามีคนนำไปขายต่อให้พ่อค้าของโบราณชาวอเมริกันคนหนึ่ง
จากนั้นบรรดาทหารกลุ่มนั้น ได้ทำลายศพด้วยความเกลียดชัง แหล่งข่าวแห่งหนึ่งกล่าวว่า ทหารหลายคนใช้อิฐวัดขนาดอวัยวะเพศ ของรัสปูติน
ซึ่งหากเป็นจริงก็แสดงว่า เรื่องที่กล่าวว่าอวัยวะเพศของรัสปูตินถูกตัดไปก็คงไม่จริง
จากนั้น พวกเขาได้นำศพใส่ถุงแบกไปยังคอกม้าเก่าแก่ที่อยู่ในป่าพาร์โกโวที่อยู่ใกล้ๆ วางศพลงไปยังกองฝืนที่หาได้ ใช้นำมันราดและจุดไฟเผา
จนกระทั่งนานถึงหกชั่วโมง จึงนำขี้เถ้าและส่วนที่เหลืออยู่ไปฝังไว้ใต้หิมะ
(แอนนา วิรูโนวา พระสหายของ ซารินาอเล็กซานดรา พระมเหสีในพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2)
(ซาร์สคูเย เซโล = หมู่บ้านพระเจ้าซาร์, พระราชวังแคทเธอรีน นครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก)
|