โบสถ์แห่งหยดเลือด
The Saviour on the Spilled Blood Cathedral
มหาวิหารที่ถูกสร้างขึ้นตรงจุดที่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 สวรรคต

วันที่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 สวรรคต
วันอาทิตย์ที่ 1 (13) มีนาคม ค.ศ. 1881 ขณะที่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 เสด็จพระราชดำเนินโดยรถพระที่นั่งไปตามถนนสายหนึ่งในกรุงเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก พวกผู้ลอบปลงพระชนม์ได้เตรียมลูกระเบิดไว้ถึง 4 ลูก คอยการเสด็จพระราชดำเนินผ่าน โซเฟีย ปีรอฟสกายา ได้โบกผ้าเช็ดหน้าให้ ไรซาคอฟ โยนลูกระเบิดเข้าไปในรถพระที่นั่ง ลูกระเบิดหล่นถูกใต้ท้องรถพระที่นั่งและระเบิดขึ้น ผลจากการระเบิดได้ทำให้รถพระที่นั่งถูกทำลายเป็นชิ้นๆ ม้าลากรถและผู้ตามเสด็จกับทหารม้าคอสแซคที่ตามรถพระที่นั่ง และเด็กผู้ชายเล็กๆ คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ แต่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทรงไม่ได้รับอันตราย พระองค์ทรงลงจากรถพระที่นั่ง ที่พังยับเยินมารับสั่งกับคนเจ็บแล้วก็ทรงถามเรียบๆ ถึงผู้ที่ปาระเบิดที่ถูกจับได้ ขณะที่พระองค์ทรงรับสั่งกับผู้บาดเจ็บผู้หนึ่งว่า " ขอขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้าที่เขาไม่ตาย " ("thanking God that he was not hurt") ทันใดนั้นฆาตกรคนที่ 2 คือ กรินวิทสกี้ (Grinevitskii) ได้วิ่งเข้ามาหาพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 พร้อมร้องตะโกนว่า " อย่าเพิ่งขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเลย " (" It is too early to thank God ") แล้วเขาก็โยนลูกระเบิดลงระหว่างพระบาท ของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ชิ้นโลหะระเบิดตัดพระบาททั้ง 2 ข้างขาด พระอุทรเหวะหวะ พระพักตร์ฉีกขาด แต่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ยังไม่เสด็จสวรรคตและทรงมีพระสติดี รับสั่งแผ่วๆ ว่า ต้องพระประสงค์ที่จะสวรรคตที่พระราชวัง พวกนายทหารองครักษ์ได้ช่วยกันยกพระวรกายที่ยังเหลืออยู่ของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 เชิญเข้าไปยังพระราชวังฤดูหนาว พระโลหิตสีดำหยดหยาดไปตามบันใด หินอ่อน พวกข้าราชบริพารช่วยกันวางพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ลงบนพระแท่น พระเพลาขวาของพระเจ้าซาร์ขาด ส่วนข้างซ้ายแหลกเลอะ พระเนตรข้างหนึ่งปิดอีกข้างหนึ่งยังลืมอยู่แต่เลื่อนลอย ในที่สุดกก็สวรรคต ในเวลา 15.15 น. ตอนบ่าย