ความจริงแล้ว รัสปูตินรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาได้มีผู้ที่คิดจะลอบฆ่าเขา เนื่องจากวันหนึ่งเขาได้เล่าให้ผู้ที่อยู่ร่วมอพาร์ตเม้นท์เดียวกับเขาว่า
เขาได้เห็นพระโลหิตเชื้อพระวงศ์ชั้นเจ้าฟ้าแดงฉานอยู่ในแม่น้ำเนวา และในการเฝ้านิโคลัสที่ 2 เป็นครั้งสุดท้าย รัสปูตินก็ไม่ได้ถวายพระพรอย่างเคย ตอนจะกลับเขากลับกราบทูลว่า
"ครั้งนี้ใต้ฝ่าพระบาทเป็นฝ่ายพระราชทานพรให้ข้าพระพุทธเจ้า" ("This time is for you to bless me, not I you.") ชิมาโนวิช (Simanovich) เลขานุการส่วนตัวซึ่งรัสปูตินไว้ใจมาก ได้เป็นผู้แสดงจดหมายส่วน
ตัวของรัสปูตินตอนที่เขียนไว้ในปลายเดือนธันวาคม ค.ศ. 1916 ก่อนหน้าที่รัสปูตินจะถูกฆ่าไว้ดังนี้
"ข้าได้เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา และได้เก็บไว้ ณ กรุงเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ข้ามีความรู้สึกว่า ชีวิตของข้านั้นคงจะไม่ยืนยาวไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม (แบบเก่า ค.ศ. 1917) เป็นแน่
ดังนั้น ข้าจึงอยากจะเขียนจดหมายฉบับนี้ไว้แก่ประชาชนชาวรุสเซีย แด่พระเจ้าพ่อ พระเจ้าแม่ พระเจ้าลูกทุกพระองค์ ตลอดจนแก่แผ่นดินรุสเซีย
เพื่อที่เขาทั้งหลายจะได้เข้าใจถึงเรื่องราวทั้งหลายว่า ถ้าข้าจะถูกประหารชีวิตโดยบุคคลที่เป็นสามัญ เช่นพี่น้องชาวชนบทของข้าแล้วละก้อพระเจ้าซาร์แห่งรุสเซีย
ก็ไม่ต้องทรงพระวิตกแต่ประการใด พระองค์ทรงดำรงค์ตำแหน่งเป็นเจ้าชีวิตของชาติตลอดจนพระชนม์ชีพ และพระราชวงศ์ก็จะยั่งยืนร้อยปีพันปี แต่หากว่าข้าได้ถูก
บรรดาบุคคลที่อยู่ในฐานันดรแห่งราชวงศ์หรือบรรดาบุคคลชั้นขุนนางทำการฆาตกรรมข้า และพวกนี้ทำให้โลหิตของข้าต้องนองพื้นดินเมื่อไร พวกนี้จะได้รับเลือดตกยางออก
เป็นเวลาถึง 25 ปี จึงจะสามารถล้างโลหิตที่เปื้อนเกรอะกรังนั้นออกได้ และพวกขุนนางเหล่านั้นจะกระเสือกกระสนออกจากแผ่นดินรัสเซียไปตลอดกาล พระเจ้าซาร์แห่งรุสเซีย
จงโปรดรับทราบไว้เถิดว่า เมื่อใดก็ตามที่พระองค์ทรงได้ยิน เสียงระฆังแจ้งเหตุว่า ข้าได้เสียชีวิตโดยพระญาติสนิทของพระองค์เป็นคนลงมือเอง บรรดาสมาชิกในครอบครัวคตลอดจนพระญาติสนิท จะต้องประสบความหายนะถายในเวลา 2 ปี ทุกๆ พระองค์
ในราชวงศ์จะถูกลอบปลงพระชนม์ชีพโดยชาวรุสเซีย.... ข้าเองจะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน ข้าจะไม่มีโอกาสอยู่กับพวกมนุษย์แล้ว จงสวดมนต์ จงสวดมนต์ จงเข้มแข็งเถิดพระองค์ และทรงพยายามสวดอ้อนวอนให้พระราชวงศ์ของพระองค์ด้วยเถิด"
|